เล่าเรื่องแลมเบรตต้า

[Lam Station]

สวัสดีครับ...ชาว Lambretta Service Station(โข่ง)และเพื่อนๆที่เข้ามาเยี่ยมชมกระทู้นี้ การเปิดกระทู้ "เล่าเรื่องแลมแบรตต้า" ต่อไปนี้ ค่อนข้างจะประวิชาการอยู่บ้าง เพราะเป็นเรื่องที่ยาวมาก ผมในฐานะผู้ที่คัดลอกข้อความดังกล่าวมาเผยแพร่ให้เพื ่อนๆได้รับรู้ โดยหวังว่าจะมีส่วนหนึ่งส่วนใดต่อจากนี้เป็น อาจเป็นประโยชน์ ความรู้และสาระไม่มากก็น้องแก่เพื่อนๆครับ

บทที่1 สกู๊ตเตอร์ "แลมเบรตต้า" (Lambretta Motor-Scooter
(1) รถสกู๊ตเตอร์ หรือ จักรยานยนต์ล้อเล็ก (Motor-scooter) ยี่ห้อแลมเบรตต้า (Lambretta) เริ่มผลิตใช้เป็นครั้งแรกในประเทศอิตาลี เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 แบบที่ผลิตขึ้นในสมัยนั้น เรียกวว่า แบบ A แบบB และ แบบC จามลำดับ รูปลักษณะตัวถัง และการวางเครื่องยนต์ของแลมเบรตต้าในสมัยนั้น อาจจะแตกต่างกับแลมเบรตต้าในปัจจุบันอยู่บ้าง แต่ก็คงรักษาทรวดทรงเดิมของมันให้เห็นสภาพว่าเป็น รถจักรยานยนต์ล้อเล็ก หรือ สกู๊ตเตอร์ไว้ตราบเท่าทุกวันนี้
เพื่อที่จะให้ผู้อ่านเข้าใจถึงสภาพของเครื่องยนต์ระห ว่างแลมเบรตต้า และ เวสป้า เป็นไปแต่ละอย่างของมัน ในบทแรกนี้ จึงขอแนะนำให้รู้จักกับสภาพของแลมเบรตต้าเป็นอันดับแ รก และกรรมวิธีแห่งการทำงานแต่ระบบของมันเป็นลำดับต่อไป
"แลมเบรตต้า" คันแรกเมื่อเริ่มผลิตขึ้นในราวปี ค.ศ.1951 เป็นแบบทรวดทรงลักษณะตัวถังของรถและเครื่องยนต์ยาวแร งม้าของเครื่องยนต์ประมาณ 123 ซี.ซี. มีท่อเหล็กคู่โค้งไปรอบถังน้ำมันและอยู่เหนือเครื่อง ยนต์โดยรองรับอยู่ใต้เบาะหรืออานที่นั่งขับขี่ แบบๆ เรียกว่า แบบA (Model A) และ แบบB ตามลำดับ ส่วนแบบC ได้เริ่มผลิตเอาในปี ค.ศ. 1952 ซึ่งรวมเอาตัวถังของรถเป็นรูปท่อเดียว และสปริงหรือแหนบล้อหลังขึ้นอยู่กับเพลาถ่ายกำลัง แบบD ซึ่งเป็นแบบล่าสุดของแลมเบรตต้าในระยะต่อมา ผู้ผลิตได้เพิ่มเครื่องยนต์ไปเป็น 2 แบบ แต่รางแม้ของเครื่องยนต์คงประมาณไม่เกิน 125ซี.ซี. และ 150 ซี.ซี.
แบบD นับได้ว่า เป็นแบบที่เริ่มมีการปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพและเปล ี่ยนแปลงไปจากของเดิมอยู่หลายประการ

[Lam Station]

(2) จากปี ค.ศ. 1955 ได้มีการผลิตแบบD 150 ซี.ซี. และ LD เรื่อยมา จนถึง ปี ค.ศ. 1959 ได้มีแบต่างๆ ผลิตออกมาเป็นลำดับ คือ
- ปี 1957 แบบ LD Mk. III
- ปี 1958 แบบ TV 175
- ปี 1959 แบบ 125 LD Mk. IV
แบบ LC และแบบ LD เป็นแบบที่สร้างจากเค้าโครงเดิมของแบบC และแบบD ดังที่กล่าวมาแล้ว แต่มีฝาครอบปกคลุมเครื่องยนต์มิดชิด และกระทัดรัดกว่าเดิม
แลมเบรตต้า ในปัจจุบัน แบบที่นับว่าเป็นที่นิยมแพร่หลายกันอยู่มากก็คือแบบ TV และ LI ซึ่งผู้ผลิตได้ใช้เวลาดัดแปลง แก้ไขและปรับปรุงตลอดมานับเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 12 ปี ระบบการทำงานทุกระบบของแลมเบรตต้าได้รับการปรับปรุงข นานใหญ่ เช่น ระบบแขวนลอย (Suspension) ได้แก่จำพวก แหนบ โช๊คอับรูปสปริงกระบอก เหล็กคานนก (Stabilizer) และเบรค (Brake-ห้ามล้อ) ส่วนตัวเครื่องยนต์ก็ได้รับการปรับใหม่ให้มีเพลาส่งก ำลัง (Transmission) แบบเกียร์ (Gear = เครื่องยนต์เปลี่ยนกำลัง) 3 สปีด มีเฟืองขับในระบบเฟืองโซ่ขนานไปยังสปีดที่ 4 ของเกียร์ที่อยู่เพลาท้าย ตัวคันถีบสตาร์ท (Kickstarter) ก็ได้ระดับมาตราฐาน รวมความแล้ว ผิดไปจากแบบแรกเริ่มออกไปอีกมาก
เหตุที่ว่า เครื่องยนต์ผิดไปจากเดิม ก็คือ ข้อเหวี่ยง (Crank) ของเครื่องยนต์จะไม่ทำงานในขณะที่สับหรือเปลียนเฟื่อ งเกียร์ จนกว่าจะปล่อยคลัทช์ให้เป็นอิสระจากคันเหยียบสตาร์ทใ ห้ทำงานเสียก่อน ส่วนกรรมวิธีอื่นๆ ก็ได้เปลี่ยนให้เป็นแบบเท่าเห็นกันอยู่ในปัจจุบัน

[Lam Station]

(3) แลมเบรตต้า แบบ TV 175 Series 1
แลมเบรตต้า แบบ TV 175 Series เป็นแบบที่ผลิตขึ้นรามเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ.1958 เป็นแบบเครื่องยนต์สูบเดียว (Single cylinder) แรงม้า 175 ซี.ซี. เครื่องยนต์ 2 จังหวะ (Two-stroke engine) วางแบบนอนโดยให้กระบอกสูบ (Cylinder) หันไปข้างหน้าตัวรถ เพลาข้อเหวี่ยงหรือแคลงชาฟ (Crankshaft) ในขณะทำงานทำมุมขวาที่ตัวถัง และมีพัดลมควบคุมหรือทำหน้าที่หล่อเย็นเครื่องยนต์ ติดอยู่ที่เฟื่องมูเล่ (Flywheel) หรือล้อช่วยแรงของแมกนิโต (Magneto) ติดอยู่ทางด้านซ้ายของตัวรถ
อากาศที่จะผ่านเข้าไปสู่ยังคาบูเรเตอร์ (Carbureto= เครื่องผสมอากาศและน้ำมันที่จะส่งไปจุดเผาไหม้ในกระบ อกสูบ) จะผ่านเข้ามาจากช่องอากาศกลัง ซึ่งมีท่อขนานยาวไปตามตัวถังของรถ โดยผ่านเครื่องกรองอากาศ (Air fiter) และเครื่องดูดไปยังคาบูเรเตอร์
คลัช (Clutch) เครื่องประสานกำลังในการเปลี่ยนเกียร์ของตัวรถนั้นจะ ติดอยู่ทางด้านขวาของข้อเหวี่ยงและรอบนอกบริเวณนี้จะ เป็นโซ่เฟืองขับคู่ ถายในฝากระโปรงครอบข้อเหวี่ยง ด้านซ้ายของแฮนด์ขับขี่เป็นที่ติดตั้งเกียร์ (Gear) หรือเครื่องเปลี่ยนความเร็วของรถเป็นแบบก้ามปู (Handlebar twist-grip) ซึ่งต้องบีบก้ามนี้ให้หนีบเข้าไปเมื่อจะใช้งาน และที่ตั้งตำแหน่งของเกียร์ในสปีดต่างๆ รวมทั้งเกียร์ว่างนี้ จะมีหมายเลขกำกับให้เป็นที่สังเกตุ เช่น เกียร์1 ก็จะมีเลข 1 เมื่อต้องการจะเปลี่ยนเกียร์1 หรือ เกียร์ 2 ก็หมุนกระบอกแฮนด์นั้นให้จุดตรงกับเลขของเกียร์
ด้านขวาของแฮนด์เป็นที่ตั้งของคันเร่งเครื่องยนต์ (Throttle) และเบรคหน้า(Front brake) หรือห้ามล้อหน้า บริเวณตอนกลางของแฮนด์เป็นที่ตั้งของสวิทช์ไฟต่างๆ เช่นๆ ไฟหน้า และไฟท้าย ไฟเปิดสตาร์ทเครื่อง ใกล้กับคันเร่งคืด ปุ่มกดแตรไฟฟ้า (Horn)
แมกนิโตไฟลวิล (Flywheel magneto) โดยปกติจะมีกระแสไฟความแรงต่ำ กระจายไปยังคอล์ยหรือจานจ่ายไฟ (Distributor) เพื่อส่งต่อไปยังคอล์ยจุดหัวเทียนในกระบอกสูบ (Ignition coil) โดยมีเจนเนอเรเตอร์ (เครื่องกำเนินกระแสไฟ) ขนาด 6 โวลท์ 27 วัตต์ เพื่อส่งกระแสไปยังไฟหน้าของรถและไฟท้าย หรือให้กำเนิดกระแสไฟตรง D.C. สำหรับประจุเข้าแบตเตอรี่เพื่อส่งต่อไปนังไฟสัญญาณจอ ดรถ แบตเตอรี่ดังกล่าวนี้จะมีขนาด 6-7 แอมแปร์-อาวร์ ของความจุ
ถังจุน้ำมันเชื้อเพลิง (Fuel Tank) โดยทั่วไปจะมีจนาดจุ 1.75 แกลอน ซึ่งตามปกติความสิ้นเปลืองของน้ำมันเชื้อเพลิงประมาณ 94 ไมล์ต่อแกลอน (m.p.g.) หรือถ้าใช้ขับขี่ในถนนซึ่งไม่พลุกพล่านไม่มีการเปลี่ ยนเกียร์มากนักก็อาจไม่ถึง และอย่างสูงก็แระมาณ 80 ไมล์แต่แกลอน (แกลอนหนึ่งประมาณ 4.5 ถึง 5 ลิตร) แต่จะมีถังสำรองน้ำมันเชื้อเพลิงแห้งขอดอีกแห่งหนึ่ง จุประมาณ 1.5 ไปน์อยู่ด้วย การใช้ความเร็วสูงของรถหรือเกียร์สูงสุดที่รถสามารถจ ะวิ่งได้คือ 60 ไมล์ต่อ ชั่วโมง (m.p.h.) ซึ่งนับว่า เป็นสกู๊ตเตอร์แบบที่มีความเร็วสูงกว่ารถแบบอื่นๆ ในรุ่นเดียวกันอยู่มาก

[Lam Station]

(4) แลมเบรตต้าแบบ LI 150 และ LI 125
แลมเบรตต้าแบบ LI เป็นแบบที่คล้ายคลึงกับแบบ TV ดังที่กล่าวมาแล้ว โดยเฉพาะลักษณะและการวางตัวเครื่องยนต์ ซึ่งแม้จะมีแรงม้าต่ำกว่าแบบ TV เพราะมีเพียงแค่ 150 และ 125 ซี.ซี. โดยที่ลดความกว้างของกระบอกสูบลงมาจาก 57 ม.ม. ถึง 52 มม. แรงม้าประมาณ 148 ถึง 123 ซี.ซี. แต่ก็นับว่ามีความอัดในอัตราสูงเช่นเดียวกับแบบ TV ประมาณแรงสูงสุดของการทำงานสำหรับเครื่องยนต์ 148 ซี.ซี. คือประมาณ 6.5 แรงม้าที่รอบหมุนนาทีละ 5,300 รอบ สำหรับเครื่องยนต์ 123 ซี.ซี. คือ 5.2 แรงม้า ที่รอบหมุน 5,200 รอบต่อนาที (R.P.M.)
ส่วนรายการของเครื่องยนต์บางทีก็จัดให้แตกต่างกันอยู ่บ้างเมื่อเทียบกับแบบ TV สำหรับแบบ LI นั้น ตัวคลัทช์จะปรับให้ชิดกับปลายล้อ และมีเฟืองเล็กๆประกอบอยู่ในการส่งกำลังอีกตัวหนึ่ง ตัวเหยียบสตาร์ทเครื่องก็แตกต่างกันอยู่บ้าง โดยมีแขนข้อเหวี่ยงเป็นแผ่นตั้งอยู่ในตำแหน่งต่างกัน ความแตกต่างอีกประการหนึ่ง คือ การทำให้โซ่เฟืองล้อของเครื่องยนต์ หมุนกลับแบบทวนเข็มนาฬิกา (Anticlockwise) แทนแบบเก่าที่หมุนแบบเข็มนาฬิกา คือ เปลี่ยนจากหมุนไปทางขวาเป็นหมุนไปทางซ้าย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการทำงานของคลัทช์และเกียร์ด้วย

[Lam Station]

ความแตกต่างที่สังเกตได้ง่าย ระหว่างแลมเบรตต้า แบบ LI กับ แบบ TV175 คือที่นั่งหรืออานสำหรับผู้ขับขี่ ซึ่งนับเป็นแบบที่นั่งคนละตอนกับแบบที่นั่งยาวตลอด ส่วนภายนอกหรือตัวประกอบด้านนอกของรถระหว่างแบบ LI 150 กับแบบ LI 125 คือขอบโลหะชุบโครเมี่ยมที่แป้นวางเท้าข้างๆตัวเครื่อ งรถ แบบ LI 125 มีขอบเส้นอลูมิเนียมเดินเป็นทางยาวไปตามรูปรถ และที่แฮนด์พ่นสี ด้านใต้เบาะเป็นช่องบรรจุเครื่องมือและมีกุญแจล๊อคแฮ นด์ที่ด้านหน้า
ล้อและแหนบหรือระบบแขวนลอยของ แบบ LI คล้ายกับแบบ TV แว้นแต่ล้อหน้าของแบบ LI ไม่มีโช๊คอั้บ (Shock absorber) คงมีแต่แหนบสปริงขดเป็นรูปกระบอกแทน ส่วนอุปกรณ์ทางระบบไฟฟ้าในแบบ LI 150 ประกอบด้วย ไฟลวีลแมกนิโตและแบตเตอร์รี่ 6 โวลท์ 6.7 แอมแปร์อาว์ร โดยเจนเนอเรดตอร์จะเป็นผู้ส่งไปยังไฟหน้าไฟท้าย และหลอดไฟเครื่องวัดความเร็ว (Speedometer bulb) กับแตรไฟฟ้า ส่วนแบตเตอร์รี่จะทำหน้าที่ป้อนกระแสไฟไปยังไฟจอดรถ แต่แบบ LI125 ไม่มีแบตเตอร์รี่ และเจนเนอเรเตอร์สำหรับป้อนกระแสไฟให้แก่ไฟหน้าไฟท้า ย และแตรไฟฟ้า
แบบ LI ทั้ง 2 แบบ มีเกียร์ 4 สปีด ถึงแม้อัตราสปีดจะแตกต่างกันอยู่บ้าง แต่เกียร์ทั้ง 4 บนเพลาและเฟืองเกียร์สามารถจะเปลี่ยนภายในได้เป็นกลุ ่มระหว่างแบบ LI ทั้ง 2 แบบ ในข้อที่ว่า เกียร์ต่ำสุดมีอัตราหรือเรโช (Ratio) ของแบบ LI 125 เท่ากับแบบ LI 150

หมดตอนสำหรับ Lambretta Series 1

[Lam Station]

ความจุของถังน้ำมันเชื้อเพลิงทั้ง 2 แบบประมาณ 1.9 แกลลอน ซึ่งรวมทั้งน้ำมันสำรองอีก 1.75 ไปรนร์ ความสิ้นเปลืองของเชื้อเพลิงอยู่ในปริมาณ 120 ไมล์ต่อแกลลอน

หมดตอน Lambretta Series 2

[Lam Station]

(5) แลมเบรตต้า แบบ TV 175 Series 2
แลมเบรตต้า TV 175 อีกแบบหนึ่ง ซึ่งประดิษฐ์ขึ้นภายหลัง แบบ TV 175 Series 1 อันดับแรกที่กล่าวถึง เมื่อราวเดือน พฤษภาคม ปี ค.ศ. 1959 มีส่วนแตกต่างที่สำคัญภายนอกซึ่งปรากฎให้สังเกตได้ง่ าย ก็คือ ไฟหน้ารถ คือ เลื่อนจากตัวถังด้านหน้าขึ้นไปอยู่ที่แฮนด์ขับขี่ ซึ่งสามารถทำให้ไฟหน้ารถมีโอกาสใช้ส่องทางเลี้ยวได้เ หมาะสมกว่าแบบเดิม ส่วนด้านระบบการทำงานภายในคงเป็นไปเช่นเดียวกับแบบ LI เช่น เลื่อนคลัทช์ไปยังเพลาหลัง และเกียร์ทำให้เฟืองรูปแบนแผ่ออกไป ขนาดของสูกสูบและกระบอกสูบคงเท่ากับ TV 175 Series 1
ปลายปี ค.ศ. 1959 ราวเดือนตุลาคม ได้มีการปรับปรุงแบบ LI ขึ้นจากแบบเดิมเป็นแบบ LI 125 และ 150 ซึ่งเรียกว่า อันดับ II (Series II) เช่นเดียวกับ แบบ TV 175 อันดับ II
ทั้งแบบ TV และ LI อันดับ II ดังกล่าว คงมีสภาพดคล้ายกันทั้งในกรรมวิธีแห่งการทำงาน และระบบทางไฟ แต่เฉพาะ LI 125 คงไม่มีแบตเตอร์รี่ และเจนเนอเรเตอร์ในการส่งกระแสไฟไปตามวงจรต่างๆ เช่นไฟหน้า ไฟท้าย แตรรถ และเครื่องวัดความเร็ว แบบ LI 150 คงประกอบด้วยไฟ 6 โวลท์และ 6.7 แอมแปรอาร์ว (ซึ่งแบบแรกขนาด 4 แอมแปร์อาวร์)
ส่วนล้อและแหนบคงรักษาสภาพเดิม ของแบบอันดับแรกไว้ คือนอกจากไม่มีโช๊คอั้บที่ล้อหน้าหรือแหนบหน้าของแบบ LI และมีรายละเอียดแตกต่างกันเพียงเล็กน้อยสำหรับโช๊คอั ้บหลัง ทั้งแบบ LI และแบบ TV ในระยะหลังนี้ เกียร์คงมี 4 สปีด แม้ว่าอัตราความเร็วจะแตกต่างกันบ้าง ความจุของถังน้ำมันเชื้อเพลิงคงเป็นไปเช่นเดียวกัน คือ อัตราความสิ้นเปลืองของเชื้อเพลิงประมาณ 120 ไมล์ต่อแกลลอน
แบบ LI มีรอบหมุ 25-30 ไมล์ต่อชั่วโมง และลดลงประมาณ 70 – 80 ไมล์ต่อแกลลอน ในทางที่ไม่สะดวก ความเร็วสูงสุดของแบบ LI 125 ประมาณ40 – 45ไมล์ต่อชั่วโมง แบบ LI 150 ความเร็วสูงสุดประมาณ 50-55 ไมล์ต่อชั่วโมง
ส่วนอัตราสิ้นเปลืองของเชื้อเพลิงสำหรับแบบ TV 175 รุ่นหลังนี้ คงเพิ่มขึ้นอีกเพียงเล็กน้อยไม่มากนัก และความเร็วสูงสุดอยู่ในอัตรา 60-65 ไมล์ ต่อชั่วโมง
รายละเอียดแห่งข้อแตกต่างระหว่างแบบ TV 175 รุ่นที่ 2 กับรุ่นแรกอีกประการหนึ่ง คือ อุปกรณ์หรือตัวเครื่องยนต์ คือมีทั้งขนาด 125 ซ๊.ซี. และ 175 ซี.ซี. ฉะนั้นอัตราส่วนของมันจึงแตกต่างและลดหลั่นกันไปบ้าง แต่ผู้ผลิตก็ได้ทำเครื่องหมายหรือเลขหมายของอะไหล่แต ่ละชิ้นไว้ ให้เป็นที่สังเกตได้ในการที่จะเปลี่ยนใหม่ หรือเลือกซื้อหาตามขนาดที่ต้องการ เครื่องหมายและเลขหมายจะค้นพบได้ที่ส่วนบนของอ่างน้ำ มันข้อเหวี่ยงข้างขวา
หมดตอนของ Lambretta Series 2

[Lam Station]

Lambretta Series 3
ในปี ค.ศ. 1962 แบบแลมเบรตต้าที่ได้รับการเปลี่ยนแปลงและปรับปรุงขนา นใหญ่ เรียกว่าแบบ “สลิมสไตล์ (Slimstyle) ซึ่งน่าว่าเป็นรุ่น อันดับ III (series III) ของแบบ LI 125, LI 150 และ TV 175 แลมเบรตต้ารุ่นหลังสุดนี้ เรียกได้ว่า มีการเปลี่ยนแปลงขนาดใหญ่ อาทิ เช่น คาบูเรเตอร์ใหม่ เจนเนอเรเตอร์ แมกนิโต หรือเครื่องจุดเผาไหม้ เชื้อเพลิงขนาด 6 ขั้ว และอัตราของการอัดแห่งกระบอกสูบก็ทำให้มีความอัดสูงข ึ้น
แบบ TV 175 ได้ประกอบเพิ่มเติมจานดิสเบรกของล้อหน้าขึ้นแทน ทำให้มีประสิทธิภาพในการห้ามล้อดีขึ้นกว่าเบรกเดิม ซึ่งใช้ระบบขยายแรงอัดภายในออกมาดันกับจานล้อหรือวงล ้อ กลไกส่วนอื่นๆได้มีการปรับปรุงใหม่อีกเล็กน้อย เช่น ทรวดทรงของห้องถ่ายกำลังส่งล้อหลัง รวมทั้งโช๊คอั้บและแหนบสปริล้อหลังด้วย มีการเพิ่มขนาดสายเคเบิลของเครื่องวัดความเร็วให้หนา ขึ้น และวงจรกระแสไฟในที่ต่างๆ
ในปี ค.ศ. 1963 ได้มีการผลิตขึ้นอีกรุ่นหนึ่งคือ ขนาด 198 ซี.ซี. แต่ขนาดของเครื่งอยนต์คงละม้ายคล้ายคลึงกับแบบ 175 รุ่นที่ 3 และคงใช้ระบบเบรกของจานล้อหน้า เช่นเดียวกันเป็นมาตรฐาน แบบนี้ให้ชื่อว่า “GT 200” ซึ่งมีขนาดแรงม้า 10.75 b.h.p. ตัวเครื่องยนต์ปรับปรุงให้ความเร็วสูงสุดประมาณ 70 ไมล์ต่อชั่วโมง

[Lam Station]

ส่วนประกอบภายนอกของแลมเบรตต้า รุ่นหลังๆนี้ก็ได้รับการปรับปรุงให้ผิดแผกออกไปอยู่เ รื่อยๆ เช่นมีการเพิ่ม “กระจกบังลมหน้า” (Windscreen) ของตัวรถหรือตอนหน้าด้วยกัน 4 แบบ คือ แบบ โคเบกซ์(Cobex), แบบเบนซี่ (Benzi), แบบแฟร์วิว (Fairview) และแบบแพลนเนท (Planet) แต่ละแบบจะแตกต่างกันไปบ้าง เฉพาะแบบแฟร์วิว นับว่าแปลกกว่าเพื่อน คือ เป็นแบบที่เจาะช่องมองไปข้างหน้า โดยมีแผ่นกระจกบังสำหรับสายตาผู้ขับขี่ เพื่อใช้ป้องกันอากาศชื้นหรือฝนตกในการขับขี่ให้ปลอด ภัย แบบกระจกบังหน้าเหล่านี้ ได้จัดทำเป็นพิเศษเฉพาะสำหรับแลมเบรตต้า แบบ LI เท่านั้น แบบอื่นๆ คงเป็นแบบที่ทำขึ้นเพื่อป้องกันฝุ่นบนท้องถนนในการขั บขี่เป็นส่วนใหญ่
อุปกรณ์สำคัญอื่นๆก็ได้มีส่วนเข้ามาช่วยปรุงแต่งให้ร ถดีขึ้น อาทิเช่น มาตรวัดน้ำมันเชื้อเพลิง กระจกส่องรถหลังที่ตามมา ตะแกรงนั่งขางท้ายซึ่งใช้เป็นที่ ตามหลังมา ตะแกรงนั่งข้าท้ายซึ่งใช้เป็นที่บรรทุกของเป็นต้น
ปี ค.ศ. 1966 ได้มีการผลิตขึ้นอีกรุ่นหนึ่ง เรียกว่า แบบ Model 200 SX ซึ่งคล้ายคลึงกับแบบ GT 200 หรือที่เรียกว่าทีขนาดแรงม้าเท่ากัน ผิดแผกตรงลูกสูบและเพลาข้าเหวี่ยงกับอัตราส่วนเกียร์ เท่านั้น แต่ก็นับว่าเป็นแบบที่มีประสิทธิภาพในการวิ่งได้เรีย บกว่าทุกๆแบบ ถึงแม้นว่าจะได้มีลดอัตราส่วนของความอัดลงเล็กน้อย และลดกำลังของเครื่องยนต์หรือรอบหมุนลงไปบ้าง แต่อัตราเร่งของเครื่องยนต์ก็ไม่ทำให้แตกต่างกันไปมา กนัก ส่วนรูปร่างหรือลักษณะภายนอกคงแตกต่างกันตรงกระบังหร ือตัวถังด้านหน้ารถกับกระโปงครอบเครื่องด้านข้างเพีย งเล็กน้อยเท่านั้น
เปรียบเทียบการทำงานขอบเครื่องยนต์
แบบ GT 200 แบบ 200 SX
ความเร็วสูงสุด 58.75 m.p.h. 58.25 m.p.h.
อัตราเร่งจากจุดเริ่มถึง –
110 หลา 9.30 วินาที 8.80 วินาที
¼ มล์ 22.70 วินาที 22.20 วินาที
1 กิโลเมตร 46.00 วินาที 45.00 วินาที
อัตราเร่งจาก 20 m.p.h. ถึง-
110 หลา 9.30 วินาที 9.30 วินาที
¼ มล์ 27.90 วินาที 24.50 วินาที
1 กิโลเมตร 47.50 วินาที 46.80 วินาที
หมายเหตุ m.p.h. = ไมล์ต่อชั่วโมง (Mile per hour)

[Lam Station]

รายการของแลมเบรตต้า(Specifications of Lambretta)

ก่อนที่จะศึกษาในระบบการทำงานของเครื่องยนต์แลมเบรตต ้าทุกๆ รุ่น ที่จะกล่าวในบทต่อๆไปเป็นลำดับนี้ จะขอแนะนำรายการโดยละเอียดเกี่ยวกับเครื่องยนต์และขน าดของอุปกรณ์ รวมทั้งอะไหล่ที่ประกอบของแต่ละรุ่นละแบบ ให้สมาชิกได้รับทราบไว้เป็นแนวทางเสียก่อน เพราะแต่ละชิ้นส่วนของเครื่องอะไหล่และเครื่องยนต์นั ้น แต่ละขนาดหรือแบบของมันย่อมจะแตกต่างกันอยู่บ้าง
โดยทั่วไป ผู้ขับขี่รถประเภทนี้ถ้ารักและสนใจจริงๆแล้ว ก็ควรได้รับรู้รายการเฉพาะของรถแต่ละรุ่นและขนาดไว้ เพื่อใช้เป็นแนวทางสังเกตได้ง่าย เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงของใหม่ หรืออะไหล่ที่สึกหรอของของเดิมไปถ้าเราได้รู้แต่แรก ก็ย่อมสะดวกในการจัดหาซื้อได้ง่ายและถูกต้อง ไม่สับหรือผิดขนาดกัน หรืออย่างน้อยที่สุดการที่จะเรียนรู้ถึงวิธีการตรวจซ ่อมแก้ไข ข้อบกพร่องที่เกิดขึ้น ก็ย่อมจะได้รับความรู้เหล่านี้เป็นส่วนประกอบชัดเจนก ว่าการที่เราไม่ได้รับความรู้อะไรมาก่อนเลย
รายการ (Specifications) ของแต่ละแบบแต่ละรุ่นสำหรับรถแลมเบรตต้าเป็นอัตราที่ แท้จริงจากของเดิม ซึ่งโรงงานผู้ผลิตได้ระบุไว้ แต่ละขนาดแต่ละรุ่นหรือแบบ ดังนี้ คือ
*แลมเบรตต้า แบบ LI 125*
@ ส่วนยาวทั้งหมดของตัวรถ (Overall length) 71 ¾ นิ้ว
@ ส่วนกว้างทั้งหมด (รวมทั้งแฮนด์) 28 นิ้ว
@ ความสูง 40 ¾ นิ้ว
@ ช่องว่างจากพื้นดินถึงพื้นรถ 6 &fra; นิ้ว
@ ฐานล้อ 51 นิ้ว
@ น้ำหนักรถ (ไม่รวมบรรทุก) 230 ปอนด์
@ เครื่องยนต์ สูบเดียว 2 จังหวะ (Single cylinder two stroke)
ระบบหล่อเย็นด้วยอากาศ (Air-cooled)
ความกว้างของกระบอกสูบ (Bore) 52 ม.ม.
ช่วงชัก (Stroke) 58 ม.ม.
ปริมาตร 123 ซี.ซี.
อัตราส่วนความอัด 7.0 : 1
กำลังเครื่องยนต์ 5.2 b.p.h. ที่ 5,200 รอบต่อนาที
@ การจุดเชื้อเพลิง(Ignition) แมกนิโตเฟือง 4 ขั้ว ประกอยด้วยคอยล์
หรือ ขดลวดแรงไฟสูงภายนอก
ระยะประกายหัวเทียน 14 ม.ม. (ใช้หัวเทียนแชมเปี้ยน N5 หรือ N84)จังหวะการเผาไหม้เชื้อเพลิง ที่ 22-24 องศา
ก่อถึงจุดระเบิดศูนย์คายบน
(T.D.C. = Top Dead Center)
@ การส่งกำลัง(Transmission) โซ่เฟืองคู่ (Duplex chain)
ประกอบด้วยโช๊คอั้บ(Shockabsorber)
กระบอกหนึ่งอยู่ที่ซี่วงล้อและอีกกระบอกหนึ่งติดที่เ ฟืองล้อ
@ เกียร์(Gear box) 4 สปีด อัตราส่วนของเกียร์
(รอบหมุนต่อนาทีของล้อ : รอบหมุนต่อนาทีของเพลาข้อเหวี่ยง).-
เกียร์ 1 1 : 17.40
เกียร์ 2 1 : 10.71
เกียร์ 3 1 : 7.47
เกียร์ 4 1 : 5.65

@ คลัทช์(Clutch) แบบมัลติ-ดิสด์
(Multi-disc = จานหลายแผ่นประกบซ้อนกัน) อุ้งน้ำมัน
@ คาร์บูเรตเตอร์ (Carburetter) เครื่องกรองอากาศและน้ำมันเชื้อเพลิงผสมยี่ห้อ
Dell’Orto MB18 BS5
@ ล้อ (Wheel) เหล็กอัดเป็นรูป ขอบล้อผ่าแยกจากกัน
ขนาดยางล้อทั้งสอง 10 x 3 &fra; นิ้ว
@ ความเร็วสูงสุด (Maximum speed) 42 – 45 ไมล์ต่อชั่วโมง

%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%

[Lam Station]

*แลมเบรตต้า แบบ LI 150*
@ ส่วนยาวทั้งหมดของตัวรถ (Overall length) 71 ¾ นิ้ว
@ ส่วนกว้างทั้งหมด (รวมทั้งแฮนด์) 28 นิ้ว
@ ความสูง 40 ¾ นิ้ว
@ ช่องว่างจากพื้นดินถึงพื้นรถ 6 &fra; นิ้ว
@ ฐานล้อ 51 นิ้ว
@ น้ำหนักรถ (ไม่รวมบรรทุก) 231 ปอนด์
@ เครื่องยนต์ สูบเดียว 2 จังหวะ (Single cylinder two stroke)
ระบบหล่อเย็นด้วยอากาศ (Air-cooled)
ความกว้างของกระบอกสูบ (Bore) ม.ม.
ช่วงชัก (Stroke) 58 ม.ม.
ปริมาตร 148 ซี.ซี.
อัตราส่วนความอัด 7.0 : 1
กำลังเครื่องยนต์ 6.5 b.p.h. ที่ 5,000 รอบต่อนาที
@ การจุดเชื้อเพลิง (Ignition) แมกนิโตเฟือง 4 ขั้ว ประกอยด้วยคอยล์
หรือขดลวดแรงไฟสูงภายนอก
ระยะประกายหัวเทียน 14 ม.ม.
(ใช้หัวเทียนแชมเปี้ยน N5 หรือ N84)
จังหวะการเผาไหม้เชื้อเพลิง ที่ 22-24 องศา
ก่อนถึงจุดระเบิดศูนย์คายบน
(T.D.C. = Top Dead Center)
@ การส่งกำลัง(Transmission) โซ่เฟืองคู่ (Duplex chain) ประกอบด้วยโช๊คอั้บ
(Shock absorber) กระบอกหนึ่งอยู่ที่ซี่วงล้อ
และอีกกระบอกหนึ่งติดที่เฟืองล้อ
@ เกียร์(Gear box) 4 สปีด อัตราส่วนของเกียร์
(รอบหมุนต่อนาทีของล้อ : รอบหมุนต่อนาทีของเพลาข้อเหวี่ยง).-
เกียร์ 1 1 : 13.95
เกียร์ 2 1 : 9.00
เกียร์ 3 1 : 6.70
เกียร์ 4 1 : 5.22
@ คลัทช์(Clutch) แบบมัลติ-ดิสด์
(Multi-disc = จานหลายแผ่นประกบซ้อนกัน) อุ้งน้ำมัน
@ คาร์บูเรตเตอร์ (Carburetter) เครื่องกรองอากาศและน้ำมันเชื้อเพลิงผสมยี่ห้อ
Dell’Orto MB19 BS5
@ ล้อ (Wheel) เหล็กอัดเป็นรูป ขอบล้อผ่าแยกจากกัน
ขนาดยางล้อทั้งสอง 10 x 3 &fra; นิ้ว
@ ความเร็วสูงสุด (Maximum speed) 50 – 55 ไมล์ต่อชั่วโมง

[Lam Station]

***แลมเบรตต้า แบบ TV 175***
@ ส่วนยาวทั้งหมดของตัวรถ (Overall length) 71 ¾ นิ้ว
@ ส่วนกว้างทั้งหมด (รวมทั้งแฮนด์) 28 นิ้ว
@ ความสูง 42 นิ้ว
@ ช่องว่างจากพื้นดินถึงพื้นรถ 6 &fra; นิ้ว
@ ฐานล้อ 51 นิ้ว
@ น้ำหนักรถ (ไม่รวมบรรทุก) 264 ปอนด์ (รุ่นทั่วไป)
242 ปอนด์ (รุ่น II)
@ เครื่องยนต์ สูบเดียว 2 จังหวะ (Single cylinder two stroke)
ระบบหล่อเย็นด้วยอากาศ (Air-cooled)
(รุ่น I) ความกว้างของกระบอกสูบ (Bore) 60 ม.ม.
ช่วงชัก (Stroke) 60 ม.ม.
ปริมาตร 170 ซี.ซี.
อัตราส่วนความอัด 7.5 : 1
กำลังเครื่องยนต์ 8.6 b.p.h. ที่ 6,000 รอบต่อนาที
(รุ่น II) ความกว้างของกระบอกสูบ (Bore) 62 ม.ม.
ช่วงชัก (Stroke) 60 ม.ม.
ปริมาตร 175 ซี.ซี.
อัตราส่วนความอัด 7.6 : 1
กำลังเครื่องยนต์ 8.6 b.p.h. ที่ 6,000 รอบต่อนาที
@ การจุดเชื้อเพลิง(Ignition) แมกนิโตเฟือง 4 ขั้ว
คอยล์แรงไฟสูงระยะประกายหัวเทียน 14 ม.ม.
(ใช้หัวเทียนแชมเปี้ยน N5 หรือ N84)
จังหวะจุด (รุ่น I) ที่ 26-28 องศา ก่อนถึงจุดระเบิดศูนย์คายบน
(T.D.C. = Top Dead Center)
จังหวะจุด (รุ่น II) ที่ 23 องศา ก่อนถึงจุดระเบิดศูนย์คายบน
(T.D.C. = Top Dead Center)
@ การส่งกำลัง(Transmission) โซ่เฟืองคู่ (Duplex chain) ประกอบท่อหุ้ม
@ เกียร์(Gear box) 4 สปีด อัตราส่วนของเกียร์
(รอบหมุนต่อนาทีของล้อ : รอบหมุนต่อนาทีของเพลาข้อเหวี่ยง).-

รุ่น I เกียร์ 1 1 : 14.32
เกียร์ 2 1 : 9.77
เกียร์ 3 1 : 7.30
เกียร์ 4 1 : 5.69
รุ่น II เกียร์ 1 1 : 12.50
เกียร์ 2 1 : 8.67
เกียร์ 3 1 : 6.30
เกียร์ 4 1 : 4.82
@ คลัทช์(Clutch) แบบมัลติ-ดิสด์
(Multi-disc = จานหลายแผ่นประกบซ้อนกัน) แช่น้ำมัน
@ คาร์บูเรตเตอร์ (Carburetter) Dell’Orto MB23 BS5 (รุ่น I และ รุ่น II)
Dell’Orto MB21 BS5 (รุ่น II หลังสุด )
@ ล้อ (Wheel) เหล็กอัดเป็นรูป ขอบล้อผ่าแยกจากกัน
ขนาดยางล้อทั้งสอง 10 x 3 &fra; นิ้ว
@ ความเร็วสูงสุด (Maximum speed) 64 ไมล์ต่อชั่วโมง
%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%

[Lam Station]

*** แลมเบรตต้า แบบ GT 200 ***
@ ส่วนยาวทั้งหมดของตัวรถ (Overall length) 71 นิ้ว
@ ส่วนกว้างทั้งหมด (รวมทั้งแฮนด์) 27 &fra; นิ้ว
@ ความสูง 40 &fra; นิ้ว
@ ช่องว่างจากพื้นดินถึงพื้นรถ 6 &fra; นิ้ว
@ ฐานล้อ 51 นิ้ว
@ น้ำหนักรถ (ไม่รวมบรรทุก) 242 ปอนด์
@ เครื่องยนต์ สูบเดียว 2 จังหวะ (Single cylinder two stroke)
ระบบหล่อเย็นด้วยอากาศ (Air-cooled)
ความกว้างของกระบอกสูบ (Bore) 66 ม.ม.
ช่วงชัก (Stroke) 58 ม.ม.
ปริมาตร 198 ซี.ซี.
อัตราส่วนความอัด 8 : 1
กำลังเครื่องยนต์ 10.75 b.p.h. ที่ 5,700 รอบต่อนาที
@ การจุดเชื้อเพลิง (Ignition) แมกนิโตเฟือง 60 วัตต์ 6 ขั้ว ประกอบด้วยคอยล์ไฟสูง
หัวเทียน : ระหว่างรถวิ่ง ระยะรอบของความร้อน 225
หลังจากทำการวิ่ง 226-224 ตามสภาพการใช้งาน
@ แบตเตอรี่ ความจุ 6 โวลท์ 8 แอมแปร์-อาวร์
@ การส่งกำลัง(Transmission) โซ่ขนานคู่ (Double row chain)
ประกอบด้วยสปริงแหนบแบบโช๊ค-แดมเปอร์
(Shock Damper) 2 กระบอก
@ เกียร์(Gear box) 4 สปีดแบบคอนสแตนท์ เมช เกียร์อุ้งน้ำมัน
(Constant mesh gear in oil bath)
อัตราส่วนของเกียร์
(รอบหมุนต่อนาทีของล้อ : รอบหมุนต่อนาทีของเพลาข้อเหวี่ยง).-
เกียร์ 1 1 : 11.086
เกียร์ 2 1 : 7.974
เกียร์ 3 1 : 5.810
เกียร์ 4 1 : 4.460
@ คลัทช์(Clutch) แบบมัลติ-ดิสด์
(Multi-disc = จานหลายแผ่นประกบซ้อนกัน) อุ้งน้ำมัน
@ คาร์บูเรตเตอร์ (Carburetter) เครื่องกรองอากาศและน้ำมันเชื้อเพลิงผสมยี่ห้อ
Dell’Orto HS20 ออโตเมติค ประกอบด้วยห้องลูกลอย
(Float chamber) อยู่กลาง ไม่มีเข็มน้ำมัน
หม้อกรองอากาศแบบมีไส้ประกอบด้วยห้องเก็บอากาศ
@ ล้อ (Wheel) เหล็กอัดเป็นรูป ขอบล้อผ่าแยกจากกัน
ขนาดยางล้อทั้งสอง 10 x 3 &fra; นิ้ว
@ ถังจุน้ำมันเชื้อเพลิง ความจุ 1.9 แกลลอน
@ เบรก (Brake) เบรคหน้า แบบจานเบรค
เบรคหลัง แบบขยายภายในอัดกับลงล้อ
(Internal expanding)

[Lam Station]

*** แลมเบรตต้า แบบ 200 SX ***
ส่วนกว้างยาวและน้ำหนักเช่นเดียวกับแบบ GT 200
@ เครื่องยนต์ สูบเดียว 2 จังหวะ (Single cylinder two stroke)
ระบบหล่อเย็นด้วยอากาศ (Air-cooled)
ความกว้างของกระบอกสูบ (Bore) 66 ม.ม.
ช่วงชัก (Stroke) 58 ม.ม.
ปริมาตร 198 ซี.ซี.
อัตราส่วนความอัด 7 : 1
กำลังเครื่องยนต์ 10.35 b.p.h. ที่ 5,500 รอบต่อนาที
@ การจุดเชื้อเพลิง (Ignition) แมกนิโตเฟือง 60 วัตต์ 6 ขั้ว ประกอบด้วยคอยล์ไฟสูง
หัวเทียน : ระหว่างรถวิ่ง ระยะรอบของความร้อน 225
หลังจากทำการวิ่ง 226-224 ตามสภาพการใช้งาน
@ แบตเตอรี่ ความจุ 6 โวลท์ 8 แอมแปร์-อาวร์
@ เกียร์(Gear box) 4 สปีดแบบคอนสแตนท์ เมช เกียร์อุ้งน้ำมัน
(Constant mesh gear in oil bath)
อัตราส่วนของเกียร์
(รอบหมุนต่อนาทีของล้อ : รอบหมุนต่อนาทีของเพลาข้อเหวี่ยง).-
เกียร์ 1 1 : 11.086
เกียร์ 2 1 : 7.974
เกียร์ 3 1 : 5.810
เกียร์ 4 1 : 4.460
ส่วนประกอบนอกนั้นแบบเดียวกับ GT 200

[Lam Station]

*** แลมเบรตต้า แบบ TV 175 รุ่น III (Slimstyle) ***
@ ส่วนยาวทั้งหมดของตัวรถ (Overall length) 71 นิ้ว
@ ส่วนกว้างทั้งหมด (รวมทั้งแฮนด์) 27 &fra; นิ้ว
@ ความสูง 41 นิ้ว
@ ช่องว่างจากพื้นดินถึงพื้นรถ 6 &fra; นิ้ว
@ ฐานล้อ 51 นิ้ว
@ น้ำหนักรถ (ไม่รวมบรรทุก) 242 ปอนด์
@ เครื่องยนต์ สูบเดียว 2 จังหวะ
(Single cylinder two stroke)
ระบบหล่อเย็นด้วยอากาศ (Air-cooled)
ความกว้างของกระบอกสูบ (Bore) 62 ม.ม.
ช่วงชัก (Stroke) 58 ม.ม.
ปริมาตร 175 ซี.ซี.
อัตราส่วนความอัด 8 : 1
กำลังเครื่องยนต์ 8.75 b.p.h. ที่ 5,300 รอบต่อนาที
@ การจุดเชื้อเพลิง(Ignition) แมกนิโตเฟือง 27 วัตต์ 6 ขั้ว ประกอบด้วยคอยล์ไฟสูง
หัวเทียน : ระหว่างรถวิ่ง ระยะรอบของความร้อน 225
หลังจากทำการวิ่ง 226-224 ตามสภาพการใช้งาน
@ แบตเตอรี่ ความจุ 6 โวลท์ 8 แอมแปร์-อาวร์
@ ถังจุน้ำมันเชื้อเพลิง ความจุ 1.9 แกลลอน
%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%