กะโหลกไฟหน้าแบบที่มีจีบสันในรุ่น 125u ถูกแทนที่ด้วยหัวไฟรูปร่างหน้าตาใหม่แบบที่เป็นเอกลั กษณ์ (บ้านเราเรียกรุ่นหัวโต) รถโมเดลนี้เริ่มติดตั้งมาตรวัดเรือนไมล์ทรงสี่เหลี่ย มเข้ามาใช้เป็นครั้งแรก
div>
มันไม่ใช่ "แฮนด์แป๊บ" ธรรมดานะ...เพราะ ดันไปคว้ารางวัลจากงานประกวด ประชัน เป็นของกำนัลแถมพก "เวสป้า คลาสสิก" คือสรรพคุณตอบแทน "เจ้าของ" ที่เฝ้าทะนุถนอม บ่มฟัก จนสวยสมใจ แถมยังเข้าตากรรมการเพศชายวัยเก๋า..."รถเฮนด์แป๊บตะเ กียงบน" บ้านเรานั้น ยังถูกสร้างสรรค์ขึ้นต่อเนื่องอย่างไม่ขาดสาย ทั้งรถนอก รถใน ยังคงทยอยเผยให้เห็นเป็นบุญลูกกะตา...ถึงไม่ กิ๊ก...ก...!!! เหมือนรถออกห้าง ทว่า ก็บูรณะ ปะ แต่ง มาได้ดั่งใจ ไม่เชื่อก็พิเคราะห์ดู เรามี "ปี 56" อีกคันมารับขวัญ...ต้นศักราชใหม่...!?!?!
ไม่มีใครที่จะสามารถมาเหนี่ยวรั้งความยิ่งของเราได้ ขอให้โชคดีอยู่กับเราตลอดไป
รถเวอร์ชั่นแฮนด์แป๊บ "ตะเกียงบน" นั้น เกิดในช่วงปี 1953 โมเดล 125U คือรถเวอร์ชั่นใหม่ภายใต้คอนเซ็ปต์ที่ต้องการลดต้นทุ นการผลิต ทว่า แท้ที่จริงและไลน์การผลิตปรกติเครื่องยนต์ขนาด 125 ซี.ซี. รุ่น "ตะเกียงล่าง" ยังคงได้รับการผลิตอยู่ แต่น่าเสียดายเพราะนั่น (Vespa 125/1953) ถือเป็นรถรุ่นสุดท้ายในไลน์การผลิตนี้ที่ยังคงเครื่อ งยนต์ขนาดเล็กสุดแสนประหยัดบล็อกนี้...1954-1956 จุดปฏิวัติครั้งสำคัญในเรื่องของการออกแบบหน้าตารถเจ เนอเรชั่นใหม่ของ Vespa ที่จั่วหัวด้วยการย้ายตำแหน่งของกะโหลกไฟที่บังโคลนห น้า (Fender Light) มาติดตั้งประจำการไว้บนแฮนเดิ้ลท่อกลม
ไม่มีใครที่จะสามารถมาเหนี่ยวรั้งความยิ่งของเราได้ ขอให้โชคดีอยู่กับเราตลอดไป
แต่ยังคงเปลือยเปล่าชุดแฮนเดิ้ลบาร์ที่เผยให้เห็นการ ทำงานของระบบกลไกปรับเปลี่ยนเกียร์/ คันเร่งผ่านสายเคเบิล ที่โชว์เด่นโปร่งตาเอาไว้ด้านนอก เครื่องยนต์ขนาดเล็กบล็อกประหยัดนี้ได้รับขยายปริมาต รกระบอกสูบใหม่ที่ความจุ 145.6 ซี.ซี. บนปริมาตรกระบอกใหม่ที่ขยายทั้งช่วงชัก/ กระบอกสูบเป็น 57x57 มม. บนโครงสร้างบอดี้โมโนค็อกที่ขึ้นรูปด้วยเหล็กแผ่นหนา แบบอย่างรุ่นปี 1953 แถมปรับขนาดทรวดทรงด้านท้ายกระโปรงที่โปนป่องนั้น ให้มันแคบลงเล็กน้อย โดยเฉพาะตำแหน่งของกระโปรงด้านขวาฝั่งเครื่องยนต์ โมเดลปี 1956 นั้น ออกแบบเป็นกระโปรงแผ่นเต็ม (ไม่หั่นเว้าอย่างรุ่นปี 1953) ที่สามารถเปิดล็อกไว้ด้านบนหากต้องการเซอร์วิสเครื่อ งยนต์ ช่องระบายความร้อน 7 ซี่รูปทรงรี ซึ่งภายในเผยให้เห็นเครื่องยนต์ฝาครอบกะโหลกเหล็ก และหน้าตาของฝาพัดลมทรงใหม่แบบ 3 กลีบ...ล้อหน้า/หลังขนาด 3.50x8 นิ้ว บนดุมแบบดรัมเบรกเดิมนั้น ก็ได้รับการขยายเส้นผ่าศูนย์กลางให้โตขึ้นเล็กน้อย เพื่อให้แมตช์กับความแรงของเครื่องยนต์ที่เพิ่มมากขึ ้น (ข้างละ 1 มม. เป็น 125/127 มม.) ระบบโช้คอัพหน้านั้น ยังคงเป็นแบบคอยล์สปริงที่แยกกระบอกน้ำมันไฮดรอลิกออ กจากกัน ส่วนโช้คอัพหลังทรงกระบอกคอยย์สปริงรวมนั้น เป็นพาร์ทมาตรฐานจากรุ่นปี 1953
ไม่มีใครที่จะสามารถมาเหนี่ยวรั้งความยิ่งของเราได้ ขอให้โชคดีอยู่กับเราตลอดไป
กะโหลกไฟหน้าแบบที่มีจีบสันในรุ่น 125U ถูกแทนที่ด้วยหัวไฟรูปร่างหน้าตาใหม่แบบที่เป็นเอกลั กษณ์ (บ้านเราเรียกรุ่นหัวโต) รถโมเดลนี้เริ่มติดตั้งมาตรวัดเรือนไมล์ทรงสี่เหลี่ย มเข้ามาใช้เป็นครั้งแรก และนั่นรวมถึงรายละเอียดปลีกย่อยที่แตกต่างกันตามแผน พัฒนาโมเดลในแต่ละรุ่นปี โดยเฉพาะปี 1956 ซึ่งถือเป็นโมเดลรุ่นส่งท้ายสำหรับรถเวอร์ชั่นรถ "คอหงส์" (Swan Neck) อาทิ เพิ่มเส้นสันขอบนอกบนดั้งจมูกที่ติดตั้งแตร สวิตช์ควบคุมสั่งงานเกี่ยวกับระบบไฟต่างๆ
ก็ดูแปลกตาด้วยรูปทรงเหลี่ยมโค้งมนที่ประกบเข้ากับคั นเร่งที่ออกแบบให้เรียบเนียนรับกันเหมือนเป็นชิ้นงาน เดียวกัน สวิตช์กุญแจคอทองเหลืองก็เลือกติดตั้งไว้เหนือกรวยร้ อยท่อสายเคเบิล ซี่ดุมแบบจีบดักอากาศระบายความร้อนของดุมเบรกที่เรีย กว่า "ฝาจีบ" คือของใหม่ (เป็นแบบแผนสำหรับดุมล้อสำหรับ Vespa รุ่นคลาสสิกที่ผลิตตามมา) ท่อไอเสียรูปทรง และการติดตั้งต่างก็ได้รับการออกแบบใหม่เช่นกัน ถังน้ำมันความจุ 6.25 ลิตร ทรง 5 เหลี่ยมยาวขึ้น คือจุดสังเกตเพิ่มเติม ส่วนตะแกรงหลังยังคงเป็นงานออกแบบยุคต้นของรูปทรง "A" ที่เพรียวบางและยาวกว่า โดยยึดแน่นเข้ากับตำแหน่งของเสาหลักยึดเบาะเดี่ยว 2 จุดและตำแหน่งส่วนโค้งของบอดี้ด้านท้าย โดยที่ไฟท้ายทรงเหลี่ยมเลนส์ทับทิมสะท้อนแสงสีแดงนั้ น เป็นแบบเดียวกับรุ่นที่ใช้กันในปี 1953
ไม่มีใครที่จะสามารถมาเหนี่ยวรั้งความยิ่งของเราได้ ขอให้โชคดีอยู่กับเราตลอดไป
Singhadum Racingสามแยกไฟฉาย กทม 085 - 138 - 6176 [email protected]
ของแต่ง+อะไหล่เวสป้า http://www.thaiscooter.com/forums/sh...d.php?t=209551
ยางสกูตเตอร์ http://www.thaiscooter.com/forums/sh...ad.php?t=79007
UNLIMIT SCOOTER RAMA III เร็วกว่าหรือช้ากว่า สุดท้ายก็ถึงจุดหมายเหมือนกัน
[email protected]
LINE ID 0838910888
Bookmarks