ภาระกิจ..บิดเพื่อชาติพลาดไม่ได้ ........
                                
กำลังแสดงผล 1 ถึง 1 จากทั้งหมด 1

ชื่อกระทู้: ภาระกิจ..บิดเพื่อชาติพลาดไม่ได้ ........

  1. #1
    Member STUNT.1100's Avatar
    วันที่สมัคร
    Jun 2007
    สถานที่
    เข้ากับเค้า ได้หมดแหละ
    ข้อความ
    192
    ขอบคุณ
    0
    ได้รับขอบคุณ 0 ครั้ง ใน 0 ข้อความ
    ผลการให้คะแนน
    18

    มาตรฐาน ภาระกิจ..บิดเพื่อชาติพลาดไม่ได้ ........




    em90

    มีโอกาสน้อยครั้งมากที่ประชาชนจะได้เห็น...ขบวนจักรย านยนต์เกียรติยศ “ตำรวจสันติบาล” ออกปฏิบัติงานในการนำ-แซงขบวนเสด็จฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ


    รวมทั้งพระบรมวงศานุวงศ์ นับตั้งแต่ปี 2493 กองกำกับการ 4 สันติบาล ได้นำรถจักรยานยนต์ “ฮาร์เลย์ เดวิดสัน” พ่วงข้างออกตรวจรอบพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิต และได้รับใช้ใต้เบื้องพระยุคลบาทตลอดมา จนกลายเป็นตำนานเล่าขานจากรุ่นสู่รุ่น ถึงความเข้มขลังของขบวนสองล้อเกียรติยศสันติบาล!!
    75 ปี ฮาร์เลย์สันติบาล
    หากนับรวมตั้งแต่วันแรกเริ่มก่อตั้งกองตำรวจสันติบาล หรือ Special Branch มาตั้งแต่ปี 2475 ก็เป็นเวลานานกว่า 75 ปี ของภารกิจนี้ ปัจจุบันหลังการปรับเปลี่ยนโครงสร้างตำรวจ เมื่อปี 2548 ทำให้กองบังคับการตำรวจสันติบาล (บก.ส.) 3 คือ ********านหลักของภารกิจถวายความปลอดภัย และอารักขาบุคคลสำคัญ
    แม้งานดูแลยานพาหนะและขนส่ง จะเป็นหน่วยเล็กๆ ของงานอำนวยการบก.ส.3 แต่ความรับผิดชอบนั้นกลับยิ่งใหญ่กว่าหลายเท่าตัว เพราะขบวนจักรยานยนต์เกียรติยศ “ฮาร์เลย์” ถือเป็นหน้าตาของประเทศ ในการถวายอารักขาและนำขบวนต้อนรับพระราชอาคันตุกะ รวมถึงเอกอัคราชทูตต่างชาติประจำประเทศไทย
    การให้ความสำคัญของขบวนจักรยานยนต์ฮาร์เลย์ เดวิดสัน ซึ่งได้รับใช้ชาติราชบัลลังก์มาตลอด 7 ทศวรรษ ให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง นับเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของการจัดตั้งพิพิธภัณฑ์จักร ยานยนต์เกียรติยศ “สันติบาล 3” บริเวณชั้นล่างโภชนาคาร ภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และจะเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมอย่างเป็นทางการได้ต ั้งแต่วันที่ 20 ก.พ.นี้ โดยรวบรวมรถทั้งรุ่นเก่า-รุ่นใหม่ พร้อมประวัติไว้ให้ชมเสร็จสรรพ
    พ.ต.ต.พิชัย ศรีโพธิ์อ่อน สารวัตรกองกำกับการ 2 บก.ส.3 เล่าย้อนถึงความเป็นมาของขบวนจักรยานยนต์เกียรติยศนี ้ว่า เป็นความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ของ พล.ต.ต.อรรถกฤษณ์ ธารีฉัตร ผู้อดีต ผบก.ส.3 คนก่อน ซึ่งเป็นนักขับฮาร์เลย์ตัวยง และเห็นคุณค่าของรถจักรยานยนต์ฮาร์เลย์ เดวิดสัน ที่เป็นพาหนะสำคัญในการนำขบวนเสด็จฯ และนำขบวนทูตานุทูตนานาชาติ ในการมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ จึงได้ร่วมกับภาคเอกชน คือ คณะที่ปรึกษา ผบก.ส.3 จัดสร้างพิพิธภัณฑ์ฮาร์เลย์สันติบาลขึ้น ภายในบก.ส.3
    เหตุผลสำคัญนี้เอง ทำให้ ฮาร์เลย์ เดวิดสัน มีประวัติอันยาวนานในการรับใช้ชาติ เพื่อรับเสด็จพระราชวงศ์ และยังเป็นต้นแบบให้กับตำรวจนครบาล รวมถึงรถจักรยานยนต์นำขบวนอื่นๆ ใช้เป็นแบบอย่างในการจัดขบวนอีกด้วย ทำให้ผบก.ส.3 ทุกคน รวมทั้ง พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบก.ส.3 คนปัจจุบัน เห็นถึงความสำคัญในการสานต่อปณิธานเพื่อชาตินี้ต่อไป
    สวย สง่า ทรงเกียรติยศ
    ปัจจุบันรถจักรยานยนต์ฮาร์เลย์ เดวิดสัน ที่ใช้นำขบวนเกียรติยศเป็นรุ่น Road King Police ปี 2540 ขนาดเครื่องยนต์ 1,400 ซีซี มีอยู่ 20 คัน ความเร็วสูงสุดของรุ่นนี้ทำได้ถึง 200 กม./ชั่วโมง โดยรุ่นที่ใช้งานก่อนหน้านั้น คือ ฮาร์เลย์ เดวิดสัน Electra Glide ปี 2515 ที่ยังเหลืออยู่อีก 10 คัน และยังมีรุ่นปี 2511 ซึ่งถือเป็นรุ่นบุกเบิกจักรยานยนต์เกียรติยศในเมืองไ ทย ที่ยังอยู่ในลานจอดบก.ส.3 ทุกคันยังอยู่ในสภาพดี แม้จะจอดอยู่กับที่เฉยๆ แต่ก็ยังสตาร์ตติดและวิ่งได้ตามปกติ
    หากถามว่าตลอดระยะ 75 ปีที่ผ่านมา พลขับฮาร์เลย์สันติบาลที่รับใช้เบื้องพระยุคลบาท ยังหลงเหลืออยู่ในหน่วยนี้หรือไม่ ผู้ที่ให้คำตอบดีที่สุดคงหนีไม่พ้น ด.ต.กฤษ รักษ์มณี เจ้าหน้าที่งานอำนวยการบก.ส.3 นักบิดรุ่นใหญ่วัย 58 ปี ทำหน้าที่อันทรงเกียรตินี้มาเฉียด 40 ปี นับตั้งแต่ปี 2516 ที่เข้าประจำการเป็นตำรวจสันติบาล “นายดาบเล็ก” คนนี้ ตั้งปณิธานจะอยู่หน่วยฮาร์เลย์นี้ตั้งแต่แรก และก็อยู่ยั้งยืนยงมาจนปัจจุบัน
    ด.ต.กฤษ เล่าถึงภาพความทรงจำขบวนจักรยานยนต์เกียรติยศ ซึ่งใช้ยี่ห้อสุดคลาสสิก “ฮาร์เลย์ เดวิดสัน” เป็นพาหนะนำขบวนว่า เป็นรถในตำนานสไตล์อเมริกันที่ทั่วโลกยอมรับในรูปทรง เครื่องยนต์ ความทนทาน และท่วงท่าอันสง่างามของผู้ขับขี่ เหตุผลนี้ทำให้ฮาร์เลย์ เดวิดสัน ครองใจผู้พบเห็น และทำให้รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งหากใช้ฮาร์เลย์สั นติบาลนำขบวนเสด็จฯ หรือนำขบวนผู้นำต่างชาติ และเอกอัครราชทูตนานาชาติ เข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
    ด.ต.กฤษ บอกว่า สมัยหนึ่งเคยขับนำ-แซงขบวนเสด็จฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จากพระตำหนักจิตรลดารโหฐานไปสู่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง ในพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ วันพืชมงคล ซึ่งฝนตกหนักมาก ทำให้เลี้ยวรถล้มก่อนเข้าสนามหลวง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำรัสสอบถามถึงอาการบาดเจ็บ ทำให้รู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นตราบ จนถึงทุกวันนี้ และทำให้ทราบว่าขบวนฮาร์เลย์สันติบาลอยู่ในสายพระเนต รตลอดมา
    รถจักรยานยนต์ฮาร์เลย์ เดวิดสัน ราคาไม่ต่ำกว่าคันละ 1 ล้านบาท ถือเป็นรถบิ๊กไบค์ที่ได้รับการยอมรับจากคนทั่วโลก ว่าเป็นรถในตำนานที่มีทั้งเสน่ห์ และมนตร์ขลังดึงดูดสายตาผู้คนที่ได้เห็น ยิ่งประกอบกับเครื่องแบบสีกากีคอแบะ ติดสายยงยศสีขาวที่แขนขวา สวมรองเท้าบู๊ตสีน้ำตาลสะดุดตา บนเบาะอันสง่างาม นอกจากสร้างความประทับใจผู้พบเห็นแล้ว ยังเสริมเกียรติยศให้แก่พระราชอาคันตุกะ และเอกอัครราชทูตนานาชาติ ที่ได้รับการต้อนรับอย่างเต็มภาคภูมิ
    บิดเพื่อชาติพลาดไม่ได้
    เมื่อแบ่งแยกภารกิจฮาร์เลย์สันติบาลขณะนี้ จะต้องมีคำสั่งอย่างเป็นทางการเท่านั้น หากเป็นพระราชภารกิจพระบรมวงศานุวงศ์ ทางกรมราชองครักษ์เป็นผู้ประสานงาน หากเป็นภารกิจต้อนรับผู้นำประเทศ หรือเอกอัครราชทูตนานาชาติ ทางกระทรวงการต่างประเทศเป็นผู้ประสานงานกับบก.ส.3 เพื่อจัดกำลังเจ้าหน้าที่ และจัดรูปขบวนในการปฏิบัติงานตามลำดับความสำคัญของพิ ธีการ 4 ระดับ
    State Visit ฮาร์เลย์สันติบาล มีหน้าที่นำขบวนนำ-แซงถวายพระเกียรติ เทอดพระเกียรติ ให้เกียรติ พระราชอาคันตุกะของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หากจัดขบวนเต็มทีมต้องใช้รถฮาร์เลย์สันติบาลมากถึง 15 คัน และเตรียมรถสำรองอีก 1 คัน
    Official Visit คือ การจัดขบวนฮาร์เลย์ เดวิดสัน ต้อนรับผู้นำรัฐบาลต่างประเทศที่เดินทางมาเยือนประเท ศไทย ในฐานะแขกของรัฐบาล ต้องใช้รถขบวน 9 คัน
    Working Visit ต้อนรับผู้นำรัฐบาลต่างประเทศ ที่เดินทางมาเยือนประเทศไทย ในฐานะแขกของรัฐบาลแบบกึ่งทางการ ขบวนรถอาจลดลงมาเหลือ 7 คัน หรือ 5 คัน ตามความเหมาะสม
    ขณะที่ Pretation of the letters of credence หมายถึงการนำขบวนเอกอัครราชทูตต่างประเทศประจำประเทศ ไทย เข้าเฝ้าฯ ถวายพระราชสาส์นตราตั้ง/อักษรสาส์นตราตั้ง ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มประจำ ประเทศไทย จะใช้รถในขบวนตั้งแต่ 5-9 คัน ตามความเหมาะสม
    ภารกิจสำคัญขนาดนี้ ไม่ทำให้พลขับสันติบาลที่นั่งอยู่บนเบาะฮาร์เลย์ เดวิดสัน ประหม่าแต่อย่างใด ส่วนใหญ่ตำรวจสันติบาล โดยเฉพาะบก.ส.3 จะคุ้นเคยกับพิธีการ และการอารักขาบุคคลสำคัญอยู่แล้ว ยิ่งมาทำหน้าที่รถขบวนเกียรติยศ ก็ต้องฝึกฝนการขับขี่ให้ปลอดภัยที่สุด เพราะงานนี้จะผิดพลาดไม่ได้เด็ดขาด หากจำเป็นต้องเข้าชน หรือกันรถคันอื่นให้พ้นเส้นทางก็ต้องทำ และไม่มีใครลังเลที่จะปฏิบัติหากจะทำให้ภารกิจราบรื่ น!! หากถามว่าวันนี้ตำรวจสันติบาล คือ หน้าตาและศักดิ์ศรีของ สตช.ในงานถวายอารักขา และรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญระดับชาติ แต่สิ่งที่ฝังอยู่ในใจพลขับสันติบาลทั้ง 30 นาย ที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันปฏิบัติหน้าที่คือ ความภาคภูมิใจในการรักษาความปลอดภัยอย่างเต็มภาคภูมิ กับภารกิจจักรยานยนต์เกียรติยศที่จะยืนยาวต่อไปอีกตร าบเท่านาน

    ที่มาจาก http://www.posttoday.com/lifestyle.php?id=33323













    รูป รูป  
    .. == SPM.Rider ..Classic & Bigbike Club ==
    /\2 ......เรียกสั้นๆว่า...SPM ....../\2

Bookmarks

กฎการส่งข้อความ

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •