น้ำมัน 95 หรือ 91 เติม 1 ลิตร ต้องใส่ ออโต้ลูป 1 ออน
ระยะเวลาการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องรถนั้นขึ้นอยู่กับปั จจัยและเงื่อนไขหลายๆอย่าง อาทิ เช่น สภาพเครื่องยนต์ ความบ่อยในการใช้งาน การใช้รถในสภาพถนนต่างๆ ถนนเปียก ถนนมีฝุ่นมาก การใช้รถในอุณหภูมิสูงๆ, เดินทางระยะสั้นบ่อยๆ ขับๆ หยุดๆ เนื่องจากการจราจร หรือเครื่องยนต์มีปัญหาบ่อย ควรจะมีการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องบ่อยขึ้น
โดยเฉลี่ย คนใช้รถไม่ค่อยคำนึงถึงสิ่งต่างๆ เหล่านี้และปัญหาหลักๆ มักเกิดจากกรณีเหล่านี้อยู่บ่อยๆ นั่นเป็นเหตุให้ช่างเครื่องแนะนำให้ทำการเปลี่ยนน้ำม ันเครื่องในช่วงเวลาที่สั้นกว่าที่กำหนดโดยผู้ผลิต
โดยทั่วไป เราควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่องทุกๆ 5,000 กิโลเมตร หรือทุกๆ 3 เดือน แล้วแต่ว่าเงื่อนไขไหนถึงก่อน สิ่งนี้จะช่วยทำให้มีการปกป้องเครื่องยนต์ได้ดีและทำ ให้เครื่องยนต์มีอายุใช้งานนาน
องค์ประกอบทั่วไปที่ต้องใช้ในการตัดสินใจในการเปลี่ย นน้ำมันเครื่องคือ ระยะทางและเวลา (ขึ้นอยู่กับว่าสิ่งใดครบกำหนดก่อน)โดยทั่วไปในประเท ศญี่ปุ่น จะกำหนดให้ควรเปลี่ยนเมื่อใช้รถไปประมาณ 3,000-5,000กม. หรือ 6 เดือนนับจากการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องครั้งล่าสุด ถึงแม้ว่าโรงงานจะกำหนดว่าควรเปลี่ยนเมื่อใช้ไปประมา ณ 10,000-15,000 กม. หรือภายใน 1 ปีก็ตาม แต่ในความเป็นจริงเราต้องการให้เครื่องยนต์สามารถทำง านได้อย่างมีประสิทธิภาพดีตลอดการใช้งาน จึงนิยมที่จะเปลี่ยนถ่ายน้ำมันด้วยรอบระยะเวลาที่สั้ นลง เพื่อให้รถสามารถใช้งานได้ดีมีกำลังสูง รอบเวลาในการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องที่สั้นลงขึ้นอยู่ก ับสภาวะการใช้งานของน้ำมัน
มันเป็นเรื่องแปลกที่กล่าวว่าการใช้รถในระยะสั้นๆ ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนน้ำมันเครื่องบ่อยๆ (เช่น สิบนาที หรือ ไปซื้อของใกล้ๆ) ทั้งๆที่ในความเป็นจริงการขับรถระยะสั้นๆ ทำให้น้ำมันเครื่องไม่ร้อนถึงจุดที่เหมาะสม ทำให้น้ำและน้ำมันในเครื่องยนต์อาจเกิดการรวมตัวกันไ ด้, ทำให้เกิดตะกอนและสนิม ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดการสึกหรอ ซึ่งทำให้ประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ลดลง ดั้งนั้นรถที่ไม่ค่อยได้ใช้งานก็มีความจำเป็นที่จะต้ องเปลี่ยนถ่ายเสมอ ขึ้นอยู่กับสภาวะการใช้งานและการบำรุงรักษา
ถ้าคุณเลือกที่จะเปลี่ยนน้ำมันเครื่องด้วยตัวคุณเอง คุณจะต้องมีหน้าที่รับผิดชอบต่อการde0yfของเสียในที่ ที่เหมาะสมด้วย การสัมผัสน้ำมันเครื่องที่ใช้แล้ว ไม่เพียงแต่อาจเกิดอันตรายต่อสุขภาพของคุณ แต่ยังทำให้เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมด้วย การทิ้งน้ำมันเครื่องในถังขยะ, อ่างล้างจานหรือแม่น้ำลำคลองนั้น เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย แม้แต่การเททิ้งบนดินก็ผิดกฎหมายเช่นกัน
น้ำมันเครื่องที่ใช้แล้วเพียงครั้งเดียว อาจจะดูแล้วเหมือนว่าไม่มีอันตรายใดๆ แต่แท้ที่จริงแล้วไม่ใช่เลย น้ำมันใช้แล้วเพียงหนึ่งแกลลอนทำให้น้ำหนึ่งล้านแกลล อนเสียได้ ซึ่งน้ำจำนวนนั้นเท่ากับการบริโภคน้ำดื่มของคนจำนวน 50 คนต่อปี แม้แต่น้ำมันเพียงกรวยเดียว ก็สามารถปกคลุมทั่วสนามฟุตบอลเลยทีเดียว เมื่อคุณทราบว่าจะสร้างความเสียหายได้มากเท่าไร ก็ควรที่จะกำจัดน้ำมันดังกล่าวด้วยวิธีที่เหมาะสม การทิ้งในท่อน้ำทิ้งไม่ใช่วิธีที่ถูกต้อง เพราะท่อน้ำทิ้งจะพาเอาน้ำมันเครื่องที่ปนอยู่ในน้ำท ิ้งไปสู่โรงบำบัดน้ำซึ่งทำให้การบำบัดยากขึ้น, ค่าใช้จ่ายสูงขึ้น,ใช้เวลามากขึ้น การฝัง-กลบใต้ดินจะทำให้ของเสียซึมลงสู่แหล่งน้ำได้ ก่อให้เกิดอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตในน้ำ
*ข้อมูลอ้างอิงมาจาก บริษัท คาสตรอล(ประเทศไทย) จำกัด*
/\7มีคนให้เรารักอีกสักร้อย ยังไม่เท่ากับหนึ่งคนที่รักเรา/\7
"อุปสรรคมากมาย พ่ายแพ้ให้แก่ความตั้งใจจริง
ลิขิตฟ้า หรือจะสู้มานะตน
em97คนที่เรียนรู้ที่จะ "ให้" มักเป็นผู้ "ได้" เสมอem97
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Nittisat Scooter Club CM. : 20-05-2007 เมื่อ 15:03 เหตุผล: เพิ่มเติม
ข้อมูลที่อ้างอิงมาจากคาสตรอล ข้างบนน่ะ มันเป็นข้อแนะนำสำหรับรถยนต์ หรือรถสี่จังหวะ ทั่วไป รวมทั้งมอไซด์ เช่น เวฟ โซนิค ซึ่งมันมีรายละเอียดปลีกย่อยแตกต่างกับรถ 2จังหวะเช่นเวสป้า แต่เเหตุผลเรื่องระยะเวลาในการถ่ายน้ำมันเครื่อง เค้าบอกมาได้ดี ขอบคุณในความหวังดีที่ช่วยแนะนำเพื่อนๆ แต่กรุณาศึกษาข้อมูลให้ละเอียดก่อนจะแนะนำ เพราะบางทีอาจจะทำให้เข้าใจผิดกันไปหมดได้ ผิดพลาดกันได้ไม่ว่ากัน วันหลังค่อยเข้ามาแก้ได้
รู้สึกว่าNitisat scooter แนะนำเรื่องผสมออโต้ลูปกับเวเนียร์ แล้วประหยัดน้ำมัน ด้วยหรือเปล่า อันนี้เป็นประโยชน์มาก เดี๋ยวจะลองไปทำ ไปเทสดู แต่จะขออธิบายเรื่องระบบน้ำมันหล่อลื่นเพิ่มอีกหน่อย เพราะที่บอกมามันผิดบางส่วน โดยจะแยกเป็น 4จังหวะกับ 2 จังหวะ
ในเครื่องยนต์ มอเตอร์ไซค์4จังหวะ จะใช้เพียงน้ำมันเครื่องตัวเดียว ในการหล่อลื่นส่วนประกอบต่างๆในเครื่องยนต์ ส่วนรถยนต์ห้องเกียร์กับห้องเผาไหม้จะแยกกัน
ชิ้นส่วนที่ต้องหล่อลื่น เช่น ลูกสูบ ก้าน ข้อเหวี่ยง ครัช แคมชาร์ฟ รวมไปถึงเฟืองเกียร์ (ห้องเกียร์ ) โดยในรถ 4จังหวะ น้ำมันเครื่องจะไม่ขึ้นไปบนหัวลูกสูบ แต่จะหล่อลื่นข้างๆลูกสูบ เพราะลูกสูบรถ 4จังหวะ มีแหวนกวาดน้ำมัน กวาดน้ำมันเครื่องส่วนที่เหลือจากการหล่อลื่นลูกสูบก ลับไปยังอ่างน้ำมันเครื่อง เมื่อไม่มีน้ำมันเครื่องไปเผาไหม้บนหัวลูกสูบ ควันจึงไม่ขาว
ส่วนในเครื่อง 2 จังหวะ ใช้น้ำมันเครื่อง 2 ตัวในการหล่อลื่น ชิ้นส่วนในเครื่องยนต์ ซึ่งเครื่องยนต์แยกออกเป็น 2ส่วน
1. ห้องแคร้งและห้องเผาไหม้ ห้องแคร้งคือห้องข้อเหวี่ยง มีชิ้นส้วนที่ต้องการการหล่อลื่น คือ ข้อเหวี่ยง ซีลข้อเหวี่ยง ลูกปืนข้อเหวี่ยง ลูกปืนสลักลูกสูบ และสลักลูกสูบ ส่วนห้องเผาไหม้ มีลูกสูบและแหวน ซึ่งสัมผัสกับกระบอกสูบ ส่วนแหวนลูกสูบในรถ 2 จังหวะ จะไม่มีแหวนกวาดน้ำมัน จะมีแค่แหวนอัด 2 ตัว เมื่อไม่มีแหวนกวาดน้ำมัน จึงทำให้น้ำมันที่มาหล่อลื่นลูกสูบที่เหลือใหลขึ้นไป บนหัวลูกสูบแล้วเผาไหม้ไปพร้อมกับน้ำมันเชื้อเพลิง จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้รถ 2 จังหวะ ควันขาว และกินน้ำมันออโต้ลูป และด้วยสาเหตุนี้เราจึงต้องเติมน้ำมันหล่อลื่นหรือออ โต้ลูปลงในถังน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งข้อนี้จำเป็นมาก เพราะเมื่อไรที่เราไม่ได้ผสมน้ำมันออโต้ลูปลงถัง นั่นหมายความว่า ไม่มีสารหล่อลื่นใดๆเลยที่เข้าไปทำหน้าที่หลื่นลื่นล ูกสูบ จึงเป็นผลให้ลูกสูบติด ซึ่งเมื่อรู้อย่างนี้แล้วใครที่น้ำมันออโต้ลูปหมดแล้ วยังฝืนขับต่อ จะเป็นการกระทำที่ โง่ มาก
2.ห้องเกียร์ ห้องเกียร์ของรถ2 จังหวะรวมถึงครัชด้วย ซึ่งรถเวสป้าใช้ครัชเปียก ต้องมีน้ำมันเครื่องไปหล่อลื่นผ้าครัช ชิ้นส่วนในห้องเกียร์ มีพวกเฟืองเกียร์และลูกปืน ดังนั้นในห้องเกียร์จึงต้องอาศัยน้ำมันเครื่องที่ไม่ ผสมสารหล่อลื่นพิเศษ เช่น โมลิบดินั่ม เพราะสารพวกนี้อาจจะทำให้ครัชลื่นได้ [COLOR="Lime"]จึงต้องใช้น้ำมันเครื่อง หรือน้ำมันเกียร์สำหรับเครื่องยนต์2 จังหวะ เพียงเท่านั้น ห้ามใช้น้ำมันเกียร์รถยนต์ และที่สำคัญรถเวสป้า อายุเยอะแล้ว ฟันเฟืองมีการสึกหรอ มีช่องวางระหว่างฟันเฟืองเยอะ ควรใช้น้ามันเครื่องที่มีค่าความหนืดไม่น้อยกว่าเบอร ์40 หรือถ้าเป็นเกรดรวม ก็ 20w/50
ส่วนเรื่องเบอร์น้ำมันเครื่อง ที่บอกไว้ในปักหมุด ว่าด้วยเรื่องนำมันเครื่อง ที่บอกว่าใช้ได้หลายเบอร์นั้นแนะนำให้ใช้ในกรณีที่มี น้ำมันเครื่องมันเหลืออยู่ แต่ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ควรใช้ ควรใช้น้ำมันเกียร์สำหรับเครื่องยนต์ 2 จังหวะ หรือน้ำมันเครื่องเบอร์ 40 ก็ได้ พวกเบอร์สังเคราะห์ค่าความหนืดน้อยๆ ไม่จำเป็นอย่าไปใช้ ไม่ดีต่อฟันเฟืองที่สึก เปลืองตังเปล่าๆ
ดังนั้นที่คุณบอกว่า ผสมเวเนียร์กับออโต้ลูปแล้วช่วยรักษาฟันเฟืองนั้นไม่ ใช่
ส่วนเรื่องอัตราส่วนผสม น้ำมันออโต้ลูปนั้น ตามสูตรข้างถ้วยตวง เค้าบอกว่า 2 % นั่นคือ เติมน้ำมันเบนซิน 1 ลิตร ใส่ ออโต้ลูป 20 CC แต่นี่เป็นอัตราส่วนการผสมสำหรับการใช้งานปกติ ถ้าวิ่งทางใกลหรือใช้ความเร็ว แนะนำให้ใส่เพิ่มเป็น 2 เท่า เพราะรอบสูงย่อมต้องการน้ำมันหล่อลื่นเพิ่มขึ้นด้วย และเวสป้าไม่มีปั๊มน้ำมันออโต้ลูปเหมือนรถญี่ป่น ที่จะสามารถเพิ่มปริมาณน้ำมันออโต้ลูปในรอบสูงได้
ส่วนย่อหน้านี้เป็นคำแนะนำจากช่างรุ่นเก่า เค้าบอกว่า ให้ใช้น้ำมันเครื่องผสมถังไปเลย เพราะมันจะช่วยรักษาลูกสูบได้ดีกว่าออโต้ลูป เพราะสมัยก่อนไม่มีออโต้ลูป เค้าใช้กันอย่างนี้ทั้งนั้น อันนี้ก็แล้วแต่คนจะคิด แต่ผมว่าน่าจะดี เดี๋ยวจะลองเทสดู ว่าดีกว่ามั๊ย มีข้อดีข้อเสียยังไง ประหยัดน้ำมันกว่ามั๊ย แต่ประหยัดค่าออโต้ลูปแน่ เพราะน้ำมันเครื่องเบอร์ 40 ลิตรนึงแค่60 บาทเอง ตอนนี้ใช้ เพนซอย HD เบอร์ 40 อยู่ ได้ผลยังไง เดี๋ยวบอก
ส่วนที่บอกว่าน้ำมันเครื่องสังเคราะห์ไม่ดีต่อแหวน อัน นี้จริง ถ้าเครื่องเพิ่งคว้านเสื้อสูบมาอย่าใช้ ถ้าจะใช้ให้พ้นระยะรัน-อินไปก่อน และพวกสารเคลือนเครื่องยนต์ของอเมริกา ไม่ควรใช้ ระวังจะรวนไม่ทราบสาเหตุ
ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้เป็นเพียงข้อมูลคร่าวๆ อาจจะมีรายละเอียดปลีกย่อยมากกว่านี้ จะอธิบายเพิ่มเติมในครั้งต่อๆไป
ถ้าเติมน้ำมันเครื่องเวสป้า มากกว่า 500 cc มีปัญหาอะไรกับรถมั้ยครับ
เช่น ติดๆดับๆ หัวเทียนบอร์ด เกี่ยวกันมั้ยครับ รึมีปัญหาใดบ้างครับ
ขอบคุณสำหรับทุกคำตอบนะครับ
__________________________________
เมื่อพายุพัดผ่านก็จะเจอท้องฟ้าที่สดใสem97noy_little @ hotmail.com
noylittle.hi5.comnoylittle.multiply.com
น้ำมันเครื่องสำหรับเวสป้าหมายถึงน้ำมันเกียร์ มันอยู่ในห้องเกียร์ ไม่ได้เข้าไปในห้องเผาไหม้ ใส่เยอะใส่น้อยไม่ได้ทำให้หัวเทียนบอด น้ำมันเครื่องไม่ควรใส่ให้เกิน 500 Cc เพราะมันจะไปท่วมเฟืองเกียร์ ทำให้รถอืด และเกิดแรงดันในห้องเกียร์ทำให้ซีลล้อหลังรั่วได้
ส่วนน้ำมันออโต้ลูป เขาไปหล่อลื่นในห้องเผาไหม้ ถ้าใส่มากเกินไป ทำให้หัวเทียนบอดได้
สำหรับที่แนะนำว่า เอาน้ำมันเครื่องมาใช้เป็นออโต้ลูป มีข้อดี ข้อเสีย ยังไง ข้อดีประหยัดเงิน รักษาลูกสูบ แหวน บางคนบอกว่าประหยัดน้ำมันขึ้น ข้อเสีย เขม่าเยอะ ทำให้ท่อตันเร็วขึ้น และเขม่าเกาะหัวเทียนต้องถอดหัวเทียนมาขัด เป็นระยะๆ
นํามันเกียร์ ท่าเราใส่มากเกินไปก็ไม่ดีครับ ทางที่ดีควรใส่ไม่เกิน 500 .ccนะ
แต่ถ้ารถของเราผึ่งผ่าเครื่องมาเราควรใส่ ประมาณ 650 .ccนะ
เพราะว่า เวลาเราเปลี่ยนอะไหล่ใหม่มันจะทำให้เกิดอาการแน่น
เราควรใส่นํามันเกียร์เผื่อสักนิดหนึ่ง ครับจะดีมากที่เดียว
SURIN SCOOTER INDY CLUBBY..ช่างแซม
Bookmarks