เล่าเรื่องแลมเบรตต้า - หน้า 2
                                
หน้าที่ 2 จากทั้งหมด 3 หน้า แรกแรก 1 2 3 หน้าสุดท้ายหน้าสุดท้าย
กำลังแสดงผล 16 ถึง 30 จากทั้งหมด 37

ชื่อกระทู้: เล่าเรื่องแลมเบรตต้า

  1. #16
    Senior Member Lam Station's Avatar
    วันที่สมัคร
    Dec 2005
    สถานที่
    Lambretta Service Station
    ข้อความ
    5,551
    ขอบคุณ
    0
    ได้รับขอบคุณ 1 ครั้ง ใน 1 ข้อความ
    ผลการให้คะแนน
    24

    มาตรฐาน เล่าเรื่องแลมเบรตต้า



    *** แลมเบรตต้า แบบ LI 150 รุ่น III (Slimstyle) ***
    ขนาดรถเท่ากับ แบบ TV 175 รุ่น III
    @ เครื่องยนต์ สูบเดียว 2 จังหวะ (Single cylinder two stroke)
    ระบบหล่อเย็นด้วยอากาศ (Air-cooled)
    ความกว้างของกระบอกสูบ (Bore) 57 ม.ม.
    ช่วงชัก (Stroke) 58 ม.ม.
    ปริมาตร 148 ซี.ซี.
    อัตราส่วนความอัด 7.5 : 1
    กำลังเครื่องยนต์ 6.60 b.p.h. ที่ 5,300 รอบต่อนาที
    @ การจุดเชื้อเพลิง(Ignition) แมกนิโตเฟือง 27 วัตต์ 6 ขั้ว
    @ แบตเตอรี่ ความจุ 6 โวลท์ 8 แอมแปร์-อาวร์
    @ เกียร์(Gear box) 4 สปีดแบบคอนสแตนท์ เมช เกียร์อุ้งน้ำมัน
    (Constant mesh gear in oil bath)
    อัตราส่วนของเกียร์
    (รอบหมุนต่อนาทีของล้อ : รอบหมุนต่อนาทีของเพลาข้อเหวี่ยง).-
    เกียร์ 1 1 : 13.95
    เกียร์ 2 1 : 9.00
    เกียร์ 3 1 : 6.67
    เกียร์ 4 1 : 5.22
    @ คลัทช์(Clutch) แบบมัลติ-ดิสด์
    (Multi-disc = จานหลายแผ่นประกบซ้อนกัน) อุ้งน้ำมัน
    @ คาร์บูเรตเตอร์ (Carburetter) เครื่องกรองอากาศและน้ำมันเชื้อเพลิงผสมยี่ห้อ
    Dell’Orto HS19 ออโตเมติค ประกอบด้วยห้องลูกลอย
    (Float chamber) อยู่กลาง ไม่มีเข็มน้ำมัน
    หม้อกรองอากาศดับเสียง
    รายการนอกนั้นเหมือนกับ TV 175 รุ่น III

    %%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%
    We're team service.
    We're Lambretta Service Station.


    ติดต่อ Lam Station โทร. 081-867-6974

  2. #17
    Senior Member Lam Station's Avatar
    วันที่สมัคร
    Dec 2005
    สถานที่
    Lambretta Service Station
    ข้อความ
    5,551
    ขอบคุณ
    0
    ได้รับขอบคุณ 1 ครั้ง ใน 1 ข้อความ
    ผลการให้คะแนน
    24

    มาตรฐาน เล่าเรื่องแลมเบรตต้า

    *** แลมเบรตต้า แบบ LI 125 รุ่น III (Slimstyle) ***
    @ เครื่องยนต์ สูบเดียว 2 จังหวะ (Single cylinder two stroke)
    ระบบหล่อเย็นด้วยอากาศ (Air-cooled)
    ความกว้างของกระบอกสูบ (Bore) 52 ม.ม.
    ช่วงชัก (Stroke) 52 ม.ม.
    ปริมาตร 123 ซี.ซี.
    อัตราส่วนความอัด 7.5 : 1
    กำลังเครื่องยนต์ 5.50 b.p.h. ที่ 5,200 รอบต่อนาที
    @ การจุดเชื้อเพลิง(Ignition) แมกนิโตเฟือง 27 วัตต์ 6 ขั้ว
    @ แบตเตอรี่ ความจุ 6 โวลท์ 8 แอมแปร์-อาวร์ : คอยล์ไฟแรงสูง
    @ เกียร์(Gear box) 4 สปีดแบบคอนสแตนท์ เมช เกียร์อุ้งน้ำมัน
    (Constant mesh gear in oil bath)
    อัตราส่วนของเกียร์ (รอบหมุนต่อนาทีของล้อ : รอบหมุนต่อนาทีของเพลาข้อเหวี่ยง).-
    เกียร์ 1 1 : 17.40
    เกียร์ 2 1 : 10.71
    เ กียร์ 3 1 : 7.47
    เกียร์ 4 1 : 5.65
    @ คลัทช์(Clutch) แบบมัลติ-ดิสด์
    (Multi-disc = จานหลายแผ่นประกบซ้อนกัน) อุ้งน้ำมัน
    @ คาร์บูเรตเตอร์ (Carburetter) เครื่องกรองอากาศและน้ำมันเชื้อเพลิงผสมยี่ห้อ
    Dell’Orto HS19 ออโตเมติค ประกอบด้วยห้องลูกลอย
    (Float chamber) อยู่กลาง ไม่มีเข็มน้ำมัน
    หม้อกรองอากาศดับเสียง
    @ ถังจุน้ำมันเชื้อเพลิง ความจุ 1.9 แกลลอน

    รายการนอกนั้นเหมือนกับแบบ LI 150 รุ่น III
    รายการอุปกรณ์ที่สำคัญๆจะได้กล่าวในระบบของมันแต่ระบ บเป็นลำดับไป

    %%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%
    We're team service.
    We're Lambretta Service Station.


    ติดต่อ Lam Station โทร. 081-867-6974

  3. #18
    Senior Member Lam Station's Avatar
    วันที่สมัคร
    Dec 2005
    สถานที่
    Lambretta Service Station
    ข้อความ
    5,551
    ขอบคุณ
    0
    ได้รับขอบคุณ 1 ครั้ง ใน 1 ข้อความ
    ผลการให้คะแนน
    24

    มาตรฐาน เล่าเรื่องแลมเบรตต้า (ระบบ “แฮนด์ขับขี่” แลมเบรตต้า)

    ระบบ “แฮนด์ขับขี่” แลมเบรตต้า (Handling The Lambretta)
    (1) ระบบ “แฮนลิ่ง” (Handling) หรือ “แฮนเดิ้ล” (Handle) ของรถสกู๊ตเตอร์ (รถจักรยานยนต์ล้อเล็ก) เหล่านี้ หมายถึง “พวงมาลัย” ของรถที่ใช้ในการขับขี่หรือเลี้ยว เช่นเดียวกับ “พวงมาลัย” ของรถยนต์ ผิดกันแต่ว่า พวงมาลัยของรถชนิดนี้เป็นคานถือสองมือคล้ายปีกนกและใ นตัวแฮนด์ขับขี่ของรถสกุ๊ตเตอร์ ประกอบด้วย เกียร์ และคลัทช์ พร้อมด้วยคันเร่งน้ำมันอยู่พร้อม ซึ่งควรจะได้เรียนรู้เป็นลำดับแรกของเรื่องเครื่องยน ต์
    แลมเบรตต้า แบบ LI และ TV ทั้ง 2 แบบเป็นรถที่ได้รับการปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพสูงกว ่ารถแลมเบรตต้าในสมัยแรกๆ โดยเฉพาะในเรื่องเครื่องยนต์ ซึ่งสามรถขยายออกไปได้กว้างในการขับขี่คล่องแคล่ว รวมทั้งสปีดความเร็วและการเปลี่ยนความเร็วของเกียร์ ให้กำลังเกียร์ความเร็วต่ำมีแรงฉุดแข็งขึ้น
    เครื่องยนต์ขนาด 175 ซี.ซี. เมื่อความเร็วถูกทดให้อยู่ในเกียร์สูง ก็สามารถให้เปลี่ยนตกลงมาอยู่เกียร์ต่ำได้ในอัตรา 15 ไมล์ต่อชั่วโมงอย่างคล่องแคล่ว เป็นการเปลี่ยนอย่างที่เรียกว่า “ฉับพลัน” (Snatch) และรถก็ยังคงวิ่งได้ในลักษณะราบเรียบเช่นเดิม แสดงให้เห็นว่าคันเปลี่ยนเกียร์ (Gear shift) ทำงานได้ตลอดเวลาในขณะเครื่องยนต์ทำงาน
    “คันเกียร์” (Gear Shift) หรือคันเปลี่ยนเกียร์ของรถทั้งแบบ LI และ แบบ TV จะติดอยู่ทางด้านซ้ายหรือแฮนด์ซ้ายที่จับของผู้ขับขี ่ โดยหมุนไปตามจังหวะเกียร์ 1-2-3-4 ในความต้องการ ด้วยวิธีบีบก้ามปูของแฮนด์ให้หนีบเข้า เสียก่อนแล้วหมุนเข้าเกียร์ (Twist grip) ต่ำแหนงหรือสปีดของเกียร์จะทำเป็นเครื่องหมายอยู่ที่ ห้องเกียร์ (ที่เห็น 1-2-3-4 รอบๆแฮนด์) การเปลี่ยนครั้งแรกจะเริ่มจากเกียร์ว่าง (Neutral) ไปยัง เกียร์แรกคือเกียร์ 1 โดยวิธีบีบก้ามปูของแฮนด์แล้วหมุนกลับเข้าตัว ส่วนเกียร์อื่นๆ หรือเกียร์สูง ต้องหมุนไปข้างหน้าหรือออกนอกตัว เป็นของแน่นอนที่ว่า การเปลี่ยนเกียร์ต่ำ ย่อมจะทำให้ลักษณะการทำงานไปในทางกับกัน (Reverse) แต่การประสานของเฟืองเกียร์เป็นไปในทางราบเรียบ มักไม่ค่อยปรากฏเสียงดังมาจนเกินไปนัก ยกเว้นเฉพาะจากการเปลี่ยนเป็นเกียร์ว่าง มาหาเกียร์หนึ่งเท่านั้น ที่จะได้ยินเสียงกระทบกันเบาๆ ของเฟืองที่ขบกันภายในห้องเกียร์ ซึ่งเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ถึงแม้ว่าคลัทช์จะทำหน้าที่ถูกต้องในการควบคุมเปลี่ย นเกียร์ก็ตาม
    สวิทช์และปุ่มสัญญาณต่างๆ จะอยู่ทางแฮนด์ด้านขวา ทั้งแบบ TV และแบบ LI ไม่ค่อยจะแตกต่างกันเท่าไรนัก โดยเฉพาะปุ่มกดสวิทช์คัทเอาท์วงจรจะอยู่ตรงกลางของแฮ นด์หรือหน้ารถด้านในสวิทช์ของแฮนด์รถแบบ TV จะเป็นสวิทช์ไฟต่ำและปุ่มแตรไฟฟ้า สวิทช์ไฟกลางมีกุญแจปิดเปิด สำหรับสตาร์ทอยู่ตรงกลางของแฮนด์
    ส่วนที่ควบคุมโช๊ค (Shoke control) จะอยู่ตรงด้านล่างของที่นั่งขับขี่รองลงมาคือ ที่อุดน้ำมันเชื้อเพลิง (Fuel Tab) ปุ่มทางด้านขวาของตัวรถ คือ ที่ควบคุมโช๊คน้ำมัน ในขณะเดียวกัน ปุ่มทางซ้ายมือคือที่ปิดเปิดน้ำมัน การที่จะ “ปิด” น้ำมันทั้งสองปุ่มจะต้องหมุนให้ตั้งอยู่ในตำแหน่งหัว ขึ้น (Upwards) ส่วนโช๊คหรือการเร่งน้ำมันนั้นจะทำงาน โดยการหมุนปุ่มให้ได้ 180 องศา (หรือหมุนเพียงครึ่งเดียว) ส่วนที่อุดน้ำมันนั้น มีอยู่ด้วยกัน 3 ต่ำแหน่ง หมุนให้ปุ่มตั้งขึ้นตรง น้ำมันที่ไหลจากถังจะไหลกลับเข้าถัง เป็นการ “ปิด” ถ้าจะ “เปิด” ให้น้ำมันไหลเข้าคาบูเรตเตอร์จะต้องหมุนไปทางซ้าย 90 องศา ต่ำแหน่งที่ 3 หมายถึง การติดต่อกับน้ำมันที่ไหลกลับในถัง โดยวิธีหมุนอีก 90 องศา คือ ทำมุมลงมาอยู่ล่าง การใช้ปุ่มปิดเปิดเพื่อควบคุมน้ำมันนี้ จะใช้ต่อเมื่อถ้าเราต้องการใช้รถก็เปิดให้น้ำมันเดิน ถ้าไม่ใช้รถก็ควรปิดเสีย เพราะเป็นการป้องกันมิให้น้ำมันไหลเข้าท่วมคาบูเรตเต อร์ จนเกินไปนัก อาจทำให้สตาร์ทติดยาก
    น้ำมันเชื้อเพลิงของเครื่องยนต์ 2 จังหวะ
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย บั้นท้ายดินระเบิด : 02-10-2006 เมื่อ 19:42
    We're team service.
    We're Lambretta Service Station.


    ติดต่อ Lam Station โทร. 081-867-6974

  4. #19
    Senior Member Lam Station's Avatar
    วันที่สมัคร
    Dec 2005
    สถานที่
    Lambretta Service Station
    ข้อความ
    5,551
    ขอบคุณ
    0
    ได้รับขอบคุณ 1 ครั้ง ใน 1 ข้อความ
    ผลการให้คะแนน
    24

    มาตรฐาน เล่าเรื่องแลมเบรตต้า ระบบ “แฮนด์ขับขี่” แลมเบรตต้า

    (2) เครื่องยนต์แบบใหม่ทั้งหมด ได้ออกแบบเป็นพิเศษในการทำงานแบบประหยัด โดยใช้วิธีการผสมน้ำมันระหว่างน้ำมันเชื้อเพลิง (เบนซิน) กับน้ำมันเครื่อง (หล่อลื่น) หรือที่เรียกว่าน้ำมันผสมสำหรับเครื่องยนต์ 2 จังหวะ (Petrol-Oil mixture) ทั้งนี้สัดส่วนของน้ำมันเครื่องที่จะใช้ผสมกับน้ำมัน เชื้อเพลิง จะต้องให้เป็นไปตามอัตราหรือสูตรเพียง 4 เปอร์เซนต์เท่านั้น หรือ 1 ส่วนใน 25 ส่วน) ทั้งน้ำมันเชื้อเพลิง และน้ำมันหล่อลื่นที่ใช้ผสมนี้จะต้องมีคุณสมบัติพอกั น จึงจะทำให้เครื่องยนต์ทำงานได้ผล
    We're team service.
    We're Lambretta Service Station.


    ติดต่อ Lam Station โทร. 081-867-6974

  5. #20
    Senior Member Lam Station's Avatar
    วันที่สมัคร
    Dec 2005
    สถานที่
    Lambretta Service Station
    ข้อความ
    5,551
    ขอบคุณ
    0
    ได้รับขอบคุณ 1 ครั้ง ใน 1 ข้อความ
    ผลการให้คะแนน
    24

    มาตรฐาน เล่าเรื่องแลมเบรตต้า การรักษาสภาพเครื่องยนต์

    (3) การรักษาสภาพเครื่องยนต์ Regular Maintenance

    การรักษาสภาพเครื่องยนต์หรือรถเป็นบันไดขั้นแรกของกา รป้องกันมิให้เครื่องยนต์เสียหายหรือบกพร่องได้ง่าย ในระยะเวลาอันควร ฉนั้นก่อนที่เราจะเรียนรู้ถึง วิธีตรวจซ่อม ข้อบกพร่องต่างๆ เราจำเป็นต้องศึกษาถึงวิธีการป้องกันและระวังรักษาสภ าพของเครื่องยนต์และรถเสียก่อนเพราะเป็นสิ่งจำเป็นอย ่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีรถใหม่ไว้ในความครอบครองเพราะอ ย่างน้อยที่สุดก็ช่วยให้เราสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายในกา รซ่อม หรือเปลี่ยนสิ่งชำรุดได้น้อยกว่าการรู้เท่าไม่ถึงการ

    การอัดฉีดหล่อลื่น (Lubrication)
    เครื่องยนต์โดยทั่วไป ไม่ว่า แลมเบรตต้า หรือเวสป้า หมายถึงการเตรียมการด้วยน้ำมันหล่อลื่นผสมด้วยเบนซิน อัดฉีด ส่วนการหล่อลื่นเกียร์นั้น เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ใช้น้ำมันเกียร์ต่างหากบรรจุหรือ เติมลงไปในช่องบรรจุน้ำมันเกียร์ ซึ่งทำเป็นช่องกั้นเก็บไว้ ภายในอ่างน้ำมันหล่อลื่นข้อเหวี่ยงเฉพาะน้ำมันเกียร์ นี้ ก็ต้องมีกำหนดการเปลี่ยนน้ำมันและเติมในระยะเวลาอันส มควรด้วยเช่นเดียวกัน
    น้ำมันเกียร์ (Gear oil)
    น้ำมันหล่อลื่นสำหรับเกียร์ ย่อมมีเกรด (Grade) ความข้นแตกต่างกับน้ำมันหล่อลื่นหรือน้ำมันเครื่องที ่ใช้กับรถ หรือใช้ผสมกับเบนซินโดยทั่วไป (ยกเว้นแลมเบรตต้า รุ่นTV I) ส่วนมากใช้น้ำมันหล่อลื่น SAE 90 แต่ไม่ใช่แบบ E.P. (Extreme Pressure) ซึ่งมีความข้นจัดหรือความอัดสูง โดยปกติจะต้องผสมด้วยกำมะถัน และสามารถรักษาสภาพของเครื่องไว้ได้ดี
    ส่วนแลมเบรตต้าแบบ TV รุ่น I นั้น ใช้น้ำมันหล่อลื่นเกรด SAE 30 แทนน้ำมันเกียร์ ความจะสำหรับช่องเก็บน้ำมันเกียร์โดยทั่วไป ยกเว้นเฉพาะแบบ TV รุ่น I นี้ จะเติมได้ถึงระดับของฝาปิดประมาณ 1.5 ไปนท์ แบบ TV รุ่น I ประมาณ 2 &fra; ไปนท์
    แหล่งหรือจุดที่ให้การหล่อลื่นน้ำมันต่างๆสำหรับรถชน ิดนี้มีหลายแห่งด้วยกัน บางแห่งก็ใช้น้ำมันหล่อลื่นบางแห่งก็ใช้หัวอัดจารบี (Grease Nipple) บางแห่งก็ใช้เฟือง ซึ่งต้องดูตามตารางสูตรที่ให้เป็นหลักเกณฑ์ในการหล่อ ลื่น โดยผู้ผลิตเครื่องยนต์ได้แบ่งการอัดฉีดน้ำมันเครื่อง และจารบีไว้เป็นพวกๆ การให้น้ำมันเครื่องหล่อลื่นโดยปกติก็ใช้กาน้ำมัน (Oilcan) หยดลง อะไหล่หรือกลไก ส่วนใหญ่ เช่น สลักด้านข้าง เฟืองคันของบแฮนเดิ้ล เฟืองยืน แบริ่งหัวแฮนเดิ้ล และแบริ่งก้ามแฮนด์ มักใช้จารบี และปกติไม่ค่อยใช้พร่ำเพรื่อจนเกินไปนัก
    We're team service.
    We're Lambretta Service Station.


    ติดต่อ Lam Station โทร. 081-867-6974

  6. #21
    Senior Member Lam Station's Avatar
    วันที่สมัคร
    Dec 2005
    สถานที่
    Lambretta Service Station
    ข้อความ
    5,551
    ขอบคุณ
    0
    ได้รับขอบคุณ 1 ครั้ง ใน 1 ข้อความ
    ผลการให้คะแนน
    24

    มาตรฐาน เล่าเรื่องแลมเบรตต้า การรักษาสภาพเครื่องยนต์

    (4) จุดสำคัญในการหล่อลื่นของแลมเบรตต้าเกือบทุกแบบ ไม่แตกต่างกันเท่าไรนัก ขอให้ดูที่สูตร เฉพาะที่สำคัญแห่งเดียวเท่านั้น คือ อ่างเก็บน้ำมันเครื่องข้อเหวี่ยง หรือช่องเก็บน้ำมันเกียร์ ซึ่งจะต้องรักษาระดับของมันไว้ ฝาปิดเปิดเติมน้ำมันหล่อลื่นนี้จะอยู่ตรงยอดของฝาครอ บห้องข้อเหวี่ยง หันไปข้างหน้า (ลักษณะรูปฐานของฝาเป็นหัวหกเหลี่ยมมียอดกลมปลั๊กของ ระดับจะอยู่ที่ด้านล่าง หันไปข้างหน้า และอยู่ที่ใต้พักเท้า ส่วนปลั๊กระบายน้ำมันทิ้งจะอยู่ด้านหลังใต้แกนสตาร์ท ทั้งระดับและปลั๊กระบายนี้มีลักษณะเป็นรูปหกเหลี่ยม (Hexagon-Shaped) ซึ่งต้องใช้ประแจปากตายขนาด 10 ม.ม. แบบเดียวกันไข ควรสังเกตว่า แบบ TV 175 แตกต่างกับแบบ LI และรุ่น II อยู่เล็กน้อย
    สูตรการอัดจารบีและน้ำมันหล่อลื่น
    จุดที่ใช้จารบี
    1. สลักลูกเบี้ยว เบรคหลัง
    2. สลักแป้นเหยียบ เบรคหลัง
    3. เฟืองห้องมาตรวัดความเร็ว (Speedometer)
    4. แบริ่งหน้า
    5. ห้องสปริงแหนบ
    6. ลูกหมาก (Knuxkles) คันจับแฮนเดิ้ล
    7. สปริงแหนบด้านหน้า
    8. ปุ่มปิดเปิดเล็กๆข้างตัวถังรถด้านท้าย
    9. แบริ่ง เฟืองพวงมาลัย (แฮนเดิ้ล) อันบน
    10. แบริ่ง เฟืองพวงมาลับ (แฮนเดิ้ล) อันล่าง
    จุดที่ใช้น้ำมันหล่อลื่น SAE 30 (กาน้ำมัน)
    11. ลูกหมากสายเคเบิลคลัทช์
    12. ลูกหมากเปลี่ยนเกียร์
    13. ลูกหมากสายเบรคหลัง
    14. ลูกหมากแป้นเหยียบเบรค เบรคหลัง
    15. ลูกหมาก เบรคหน้า
    16. สลักลูกเบี้ยว เบรคหน้า
    17. น้ำมันหล่อสายเคเบิ้ล (หยอดให้ถึงใต้บังโกลนน้า)
    จุดที่ใช้น้ำมันหล่อลื่น SAE 90
    GF – ที่บรรจุน้ำมันเกียร์ (Gear filler)
    GL – ปลั๊กระดับเกียร์บ๊อกซ์ (Gear level plug)
    GD – ปลั๊กระบายน้ำมันเกียร์ (Gear drain plug)
    การเติมน้ำมันหล่อลื่นเกียร์ จะต้องเติมด้วย น้ำมัน SAE 90 เทลงให้ล้นจนไหลออกจากช่องเติมเรียกว่าเป็นการเติมให ้ถึงยอดของปากช่องเติมทั้งสองปล๊กแล้วจึงค่อยปิดฝา ส่วนการถ่ายน้ำมันเก่าทิ้งนั้น ควรเป็นระยะเวลา ภายหลังที่ใช้รถไปแล้วทุกๆ 2,500 ไมล์ หรือหลังจาก 500ไมล์แรกของรถใหม่ การถ่ายน้ำมันทิ้ง ต้องเปิดทั้ง 3 ปลั๊ก เมื่อถ่ายออกทิ้งหมดแล้ว ควรจะใช้น้ำมันล้าง (Flushing oil) เสียก่อน แล้วจึงค่อยเติ่มใหม่
    We're team service.
    We're Lambretta Service Station.


    ติดต่อ Lam Station โทร. 081-867-6974

  7. #22
    Senior Member Lam Station's Avatar
    วันที่สมัคร
    Dec 2005
    สถานที่
    Lambretta Service Station
    ข้อความ
    5,551
    ขอบคุณ
    0
    ได้รับขอบคุณ 1 ครั้ง ใน 1 ข้อความ
    ผลการให้คะแนน
    24

    มาตรฐาน เล่าเรื่องแลมเบรตต้า

    (5) การอัดฉีดด้วยจารบีทุกจุด ควรใช้จารบี Ener Grease A1 หรือจะใช้ปืนฉีดชนิด 2 จังหวะฉีดลงไปตามจุดต่างๆที่กล่าวก็ได้ การอัดจารบีควรให้เป็นไปตามเวลาที่กำหนด และควรจะงดการใช้จารบีในบางแห่งที่ไม่สมควร เช่น แกนตั้งลูกเบี้ยวเพลาหลังบนหลังของข้อเหวี่ยง มิฉนั้นจะทำให้ผ้าเบรค (Brake lining) ทำงานไม่ได้ และทำให้เบรคหลังขาดประสิทธิภาพลง จุดที่ควรใช้จารบีเต็มที่ ส่วนใหญ่ได้แก่ แบริ่งล้อหน้า ซึ่งต้องการจารบีที่มีจุดหลอมละลายตัวสูง หรือทนต่อความร้อนได้ดี อย่างเช่น จารบีชนิด Energaease L3 และ Castrolease WB

    สายเคเบิ้ล
    สายเคเบิ้ลทุกแห่ง โดยปกติก็ต้องมีการให้น้ำมันหล่อลื่นทั้งชนิดเกรดธรร มดาและพิเศษ เช่นในปลอกหุ้มกลุ่มสายที่งอขดรอบถัง หรือข้างหน้าบังโกลน วิธีดีที่สุดในการใช้น้ำมันหล่อลื่นตามจุดเหล่านี้ คือใช่ท่อยางพลาสติก หรือใช้กาน้ำมันชนิดฉีด ต่อเข้ากับปลายของท่อไปยังเคเบิ้ลแต่ละสายแล้วฉีดเข้ าไปสัก 5-6 ครั้ง สายเคเบิ้ลจะต้องใช้เพียงน้ำมันหล่อลื่นอย่างเดียว ไม่ควรใช้จารบี
    ส่วนสายเคเบิ้ลของเบรคหน้าไม่ได้รวมอยู่ในกลุ่มสายเห ล่านี้ จุดที่หล่อลื่นสำหรับสายเบรคจะต้องใช้วิธีเปิดที่คลิ ปด้านหน้าของแหนบสปริงล้อหน้า จุดที่สำคัญอื่นๆ โปรดดูรายการที่กล่าวมาแล้ว
    วิธีการปรับแต่งขั้นแรกเป็นของไม่ยากนัก และเป็นวิธีที่ตรงไปตรงมาง่ายๆ เพราะสายเคเบิ้ลที่ควบคุมต่างๆเหล่านี้ มีสลักเกลียว หรือสกรูปรับแต่งอยู่ที่ปลาย ห่างจากที่ควบคุมของแฮนเดิ้ล ซึ่งหมายความว่าเราสามารถจะคลายเกลียวให้ตึง หรือหย่อนได้ตามความต้องการง่ายๆ แต่เฉพาะสายเบรคมือ (Handbrake Cable) เท่านั้นจะต้องมีความจำเป็นจริงๆในการปรับแต่งจึงค่อ ยทำได้ แต่ก็ควรปรบแต่งด้วยความระมัดระวัง คือ ดึงสายเบรคหน้าให้อยู่ในตำแหน่งเปิดเต็มที่ ก่อนที่คันเบรคจะดึงมาทางขวาปะทะกับก้ามแฮนด์ ส่วนแป้นเหยียบเบรคล้อหลังควรให้มีระยะฟรี พอที่จะขยายแผ่นหลังของเบรคได้
    สายเคเบิ้ลต่างๆ ที่สัมพันธุ์กับคับเร่งน้ำมัน และก้ามหนีบเปลี่ยนเกียร์ของแฮนเดิ้ล การควรคุมไม่ว่าจะให้มีระยะฟรีเพลย์ แต่การที่จะจัดให้สมดุลกันนั้น ต้องไม่ให้ตึงจนเกินไปนัก จนกระทั่งก้ามหนีบแฮนด์หมุนได้ในกรณีการควบคุมคันเร่ ง เมื่อต้องการจะเก็บรักษาความฝืด (Friction) จากเครื่องต่อกำลังไว้ได้ จะต้องใช้ประเก็นอัดสปริงสอดเข้าไปในระหว่างก้ามหนีบ และที่รองคันบังคับเบรคหน้าไว้
    We're team service.
    We're Lambretta Service Station.


    ติดต่อ Lam Station โทร. 081-867-6974

  8. #23
    Senior Member Lam Station's Avatar
    วันที่สมัคร
    Dec 2005
    สถานที่
    Lambretta Service Station
    ข้อความ
    5,551
    ขอบคุณ
    0
    ได้รับขอบคุณ 1 ครั้ง ใน 1 ข้อความ
    ผลการให้คะแนน
    24

    มาตรฐาน เล่าเรื่องแลมดบรตต้า

    (6) ระบบไฟฟ้าหัวเทียน

    ในด้านที่เกี่ยวไฟฟ้านี่ ปัจจัยที่สำคัญควรระมัดระวังรักษาก็คือ “หัวเทียน” (Spark plug) และแบตเตอรี่ (ซึ่งจะได้กล่าวโดยละเอียดในบทต่อไป) ส่วนหัวเทียนนั้น ได้ให้สูตรไว้ในบทนี้แล้ว การใช้หัวเทียนควรเลือกใช้ชนิดที่มีประการไฟยาว และควรเลือกใช้ให้เหมาะสมกับสภาพของการใช้รถบนเส้นทา งให้ถูกต้อง
    สำหรับการใช้ขับขี่โดยปกติหรือช้าๆ หรือในจังหวะที่เครื่องยนต์เดินเฉื่อยๆ เช่น เมื่อใช้สกูเตอร์ในถนนที่มีการจราจรหนาแน่น หัวเทียนชนิดร้อนบางชนิดก็อาจใช้ทนทานได้ดีพอสมควร ขอให้ดูตารางสูตรหัวเทียนเป็นเกณฑ์ ตามคำแนะนำของผู้ผลิตสกูตเตอร์ ส่วนระยะช่องว่างของเขี้ยวหัวเทียน (Plug gap) นั้น ในทุกกรณี ควรจะตั้งระยะไว้ประมาณ 0.020 – 024 นิ้ว (ใช้ฟิลเลอร์เกจ์วัด) และต้องหมั่นตรวจทุกระยะรอบของ 1000 ไมล์ หรือหมั่นทำความสะอาด
    เฉพาะหัวเทียนยี่ห้อ Lodge ตามคำแนะนำของผู้ผลิตหัวเทียนโฆษณาไว้ ดังนี้
    แลมเบรตต้า LC 125 C.C. ใช้ 2HN
    “ D 125 C.C. “ 2HG
    “ LD 125 C.C. “ 2HN
    “ LD 148 C.C. “ 2HN
    “ LI 125 C.C. “ HBLN
    “ LI 148 C.C. “ HBLN
    “ TV 175 C.C. “ HBLN
    “ GT 200 C.C “ HBLN
    นอกนั้นส่วนใหญ่ควรใช้ 2HN เป็นเกณฑ์
    ตารางสูตร
    คำแนะนำในการใช้ขนาดและแบบของหัวเทียน
    Champion K.L.G. Lodge
    วิ่งโดยปกติ N5 หรือ N84 FE75 CLNH
    วิ่งช้าๆหรือเริ่มหัดขับ N8 FE75 CLNH
    วิ่งเร็วในระยะทางไกล N8 FE80 CLNP
    หมายเหตุ : Champion, K.L.G.และ Lodge เป็นยี่ห้อของหัวเทียน
    แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Lam Station : 05-10-2006 เมื่อ 21:10
    We're team service.
    We're Lambretta Service Station.


    ติดต่อ Lam Station โทร. 081-867-6974

  9. #24
    Senior Member Lam Station's Avatar
    วันที่สมัคร
    Dec 2005
    สถานที่
    Lambretta Service Station
    ข้อความ
    5,551
    ขอบคุณ
    0
    ได้รับขอบคุณ 1 ครั้ง ใน 1 ข้อความ
    ผลการให้คะแนน
    24

    มาตรฐาน เล่าเรื่องแลมเบรตต้า

    (7) การรักษาสภาพของรถเป็นประจำ
    การรักษาสภาพของรถหรือเครื่องยนต์ ต้องถือว่าเป็นงานประจำ (Routine Servicing) อยู่อย่างหนึ่ง ไม่ควรให้ขาดตกบกพร่องลงไปเสียทีเดียว ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการช่วยรักษาสภาพของรถและตัวเครื่ องไว้ได้นานกว่าการทิ้งหรือปล่อยปละละเลย และเป็นการมั่นใจได้ว่า จะไม่หมดเปลืองค่าซ่อมแซมจนเกินไปนัก ถ้าผู้ใช้รถสกูตเตอร์ทั้งแลมเบรตต้า และเวสป้า จะลองพิจารณาดูคำแนะนำของแต่ละข้อข้างล่างนี้แล้วนำไ ปใช้ปฏิบัติดูบ้าง
    @ ทุกๆสัปดาห์
    * ยาง ตรวจความอัดของลม ให้ได้อัตราตามสูตร
    * ตัวถังรถภายนอก ล้างด้วยน้ำอุ่นหรือน้ำธรรมดา แล้วใช้ผ้าเช็ดให้สะอาด ระวังอย่าให้น้ำไหลเข้าไปในช่องอากาศดี เข้าใต้เบาะที่นั่งและไหลเข้า ไปในหม้อกรองอากาศได้

    @ทุกๆเดือน หรือทุก 7,500 ไมล์
    ข้อนี้ถ้าทุกๆ เดือนทำได้ตามปกติ ก็จะช่วยให้การตรวจรักษาในระยะนี้เบาลงได้ หรือหากจะถือเอาข้อนี้เป็นเกณฑ์ในการทำความสะอาด หรือรักษาแทนสภาพทุกๆเดือนก็ได้ โดยยึดหลักตามข้อที่ให้ไว้ในทุกๆ 1 เดือน โดยเพิ่มหัวข้ออีกเล็กน้อย ดังนี้
    * เฟืองมู่เล่หรือล้อช่วยแรง (Flywheel) ทำความสะอาดแผ่นสักหลาดน้ำมัน
    * แมกนิโต ทำความสะอาดทองขาวหรือ คอนแทคท์-
    เบรคเกอร์ ปอยท์ (Contact Breaker Point)
    * หม้อกรองอากาศคาร์บูเรตเตอร์ ถอดไส้หม้อกรองออกทำความสะอาดแล้วใช้
    เครื่องเป่าด้วยอากาศอัดต่ำ หรือใช้สูบยางรถจักรยานก็ได้
    @ทุกๆ 6 เดือน หรือ ทุกๆ 5,000 ไมล์
    * ทำความสะอาดเครื่องยนต์ ขัดถู หรือ ทำความสะอาดด้วยน้ำมันเบนซิน หรือน้ำมัน
    พาราฟินแล้วเช็ดให้แห้งด้วยผ้าที่สะอาด
    * ล้างเขม่าไอเสีย (Decarbonize) ทำความสะอาดที่ท่อไอเสีย หรือท่อดับเสียง (Silencer)
    รวมทั้งฝาสูบ และหัวลูกสูบ
    We're team service.
    We're Lambretta Service Station.


    ติดต่อ Lam Station โทร. 081-867-6974

  10. #25
    Senior Member Lam Station's Avatar
    วันที่สมัคร
    Dec 2005
    สถานที่
    Lambretta Service Station
    ข้อความ
    5,551
    ขอบคุณ
    0
    ได้รับขอบคุณ 1 ครั้ง ใน 1 ข้อความ
    ผลการให้คะแนน
    24

    มาตรฐาน เล่าเรื่องแลมเบรตต้า

    (8) ) การค้นหาข้อบกพร่อง (Fault-Finding)
    ข้อบกพร่องของแลมเบรตต้า หรือเวสป้า โดยเฉพาะเมื่อหมายถึงรถรุ่นใหม่ๆหลังสงครามหรือในปัจ จุบันนี้ ย่อมจะมีมากกว่ารถรุ่นก่อนๆเพราะเหตุที่ว่า เมื่อมีการปรับปรุง และวัฒนาการขึ้นมาในรูปลักษณะของใหม่ ผู้ผลิตก็ได้คำนึงถึงส่วนประหยัด ในทางเศรษฐกิจเป็นใหญ่ เช่นการลดน้ำหนักของรถให้เบาลง โดยตัดทอนเนื้อโลหะหรืออุปกรณ์บางอย่างออก และอีกข้อหนึ่งก็คือการใช้น้ำมันผสม ระหว่างเบนซินกับน้ำมันหล่อลื่น ดังที่ได้กล่าวมาแล้วในบทแรกๆ
    อย่างไรก็ตาม ประการสำคัญที่สุดไม่ได้อยู่ที่คุณภาพหรือประสิทธิภา พของรถจะเลวลง หากแต่ว่า ความวิวัฒนาการของเครื่องยนต์แต่ละรุ่นที่ผลิตออกมาใ หม่ย่อมเป็นข้อยุ่งยากอยู่บ้างสำหรับผู้ที่เคยใช้แต่ ของเก่าๆ หรือรุ่นแรกๆ หรือเกือบจะเรียกได้ว่า ตามผู้ผลิตไม่ทันในการเรียนรู้เรื่องเครื่องยนต์ใหม่ ๆนี้ก็ได้
    ข้อบกพร่องส่วนใหญ่ที่นอกเหนือไปกว่านั้น ก็จะได้แก่การที่ผู้ใช้รถขาดความระมัดระวังรักษา ดังที่ได้กล่าวมาแล้วในบทต้นๆ อันเป็นสาเหตุให้เกิดความเสียหายขึ้นได้ และแม้แต่การผสมน้ำมันเชื้อเพลิงที่ไม่ถูกส่วนไปนานๆ เข้า เครื่องยนต์ก็เกิดข้อบกพร่องได้ง่ายเช่นเดียวกัน เพราะเครื่องยนต์สกูตเตอร์ขึ้นอยู่กับส่วนผสมของน้ำม ันหล่อลื่นที่จะไปผสมกับน้ำมันเบนซินทำการหล่อลื่นกร ะบอกสูบ ลูกสูบและข้อเหวี่ยง รวมทั้งเป็นเชื้อเพลิงไปในตัวอีกด้วย จะยกตัวอย่างข้อบกพร่องที่เห็นได้ง่ายๆ และมีอยู่เป็นส่วนมากที่เกี่ยวกับเครื่องยนต์แต่ละข้ อมาเป็นเครื่องพิจารณาในขั้นแรก
    ข้อบกพร่องในแรก แม้ตามความเข้าใจส่วนมากของผู้ขับขี่รถจะเพ่งสาเหตุไ ปยัง “หัวเทียน” (Spark plug) เป็นอันดับแรก ข้อนี้ก็นับว่าเป็นส่วนถูกอยู่เหมือนกัน แต่ก็อาจจะมีกรณีอื่นๆ ที่เป็นสาเหตุให้เครื่องยนต์เกิดบกพร่องได้ไม่เฉพาะแ ต่หัวเทียนอย่างเดียว อย่างไรก็ตาม เราจะได้พูดถึงจุดแรกที่ผู้ขับขี่เป็นส่วนมากให้ความ คิดเห็นอย่างเดียวกันนี้เสียก่อน
    ข้อบกพร่องของหัวเทียน
    หัวเทียนหรือสปาร์ค ปลั๊ก (Spark Plug) นับเป็นอุปกรณ์สำคัญของเครื่องยนต์เกือบทุกประเภท ยกเว้นเฉพาะเครื่องยนต์ดีเซล (Diesel Engine) เราจะสังเกตุข้อบกพร่องได้ในการสตาร์ทเครื่องยนต์ครั ้งแรกหรือแม้แต่ในขณะขับขี่ เครื่องยนต์จะทำงานปกติ แต่กำลังของโซ่เฟืองหย่อนลงทำให้รอบหมุนของล้อช้า จนไม่สามารถจะเร่งขึ้นได้ นี่ก็เป็นสาเหตุที่เกิดจากหัวเทียนได้เช่นเดียวกัน
    กรณีบกพร่องที่เกิดจากหัวเทียนส่วนใหญ่ เกิดขึ้นจากระยะช่องว่างของเขี้ยวหัวเทียน (Gap) ซึ่งเปรียบเสมือนสะพานไฟของเครื่องยนต์ ในการทำหน้าที่จะเชื้อเพลิง มีช่องว่างของระยะหรือการตั้งไว้ไม่ถูกส่วน ทำงานไม่สมบูรณ์ ทำให้ไม่เกิดประกายไฟจุดเชื้อเพลิงผสมได้สะดวกในบางค รั้ง เป็นเหตุให้เครื่องยนต์ทั้งเครื่องหยุดทำงานลงได้
    ถึงแม้ว่าขดลวดแรงไฟของแมกนิโต ซึ่งเป็นจักรใหญ่ในการทำไฟ จะสามารถส่งกระแสไฟแรงสูงไปให้แกเขี้ยวหัวเทียน (Electrode) ได้เพียงพอ (ระยะการกระโดดของประกายไฟในหัวเทียน ประมาณ 5/16 นิ้ว และแม้ว่าสภาพภายในกระบอกสูบหรือฝาสูบ (Cylinder Head) จะมีความอัดเป็นสัดส่วนสมบูรณ์ แต่ถ้าการเกิดประกายไฟในหน้าที่ข้อเหวี่ยงไม่ถูกต้อง ก็ไม่สามารถจะช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้สะดวกตามปกต ิ เพราะเหตุดังกล่าว นอกจากนี้ หัวเทียนที่สกปรก หรือมีเขม่าจับที่เขี้ยวหัวเทียน ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้หัวเทียนบกพร่องได้เช่นเดียว กัน หัวเทียนที่ถูกและมีการตั้งระยะรวมทั้งขนาดที่เหมาะส มแล้ว ย่อมทำให้จังหวะทุกอย่างของการทำงานทางเครื่องยนต์เป ็นไปโดยสะดวก และอยู่ในสภาพปกติของมันตลอดเวลา
    We're team service.
    We're Lambretta Service Station.


    ติดต่อ Lam Station โทร. 081-867-6974

  11. #26
    Senior Member Lam Station's Avatar
    วันที่สมัคร
    Dec 2005
    สถานที่
    Lambretta Service Station
    ข้อความ
    5,551
    ขอบคุณ
    0
    ได้รับขอบคุณ 1 ครั้ง ใน 1 ข้อความ
    ผลการให้คะแนน
    24

    มาตรฐาน เล่าเรื่องแลมเบรตต้า

    ข้อบกพร่องของหัวเทียน (ต่อ)

    การรู้จักรักษาสภาพของรถ หรือเครื่องยนต์ดังกล่าวในบทที่แล้วมานี้ ย่อมเป็นส่วนหนึ่งที่จะต้องป้องกันมิให้หัวเทียนบกพร ่องได้ เพราะสภาพที่ไม่ถูกต้องจะเป็นสาเหตุอันหนึ่งที่ทำให้ การทำงานของเครื่องยนต์หรือการวิ่งของรถช้าลง กลายเป็นแรงเฉื่อยผิดปกติ อีกประการหนึ่ง การใช้หัวเทียนที่ไม่ถูกต้อง เมื่อเครื่องยนต์เดินเบาลงก็ทำให้หัวเทียนขาดความร้อ น ถ้าลองถอนหัวเทียนออกดูเราจะพบว่า ที่หัวเทียนมีเขม่าสีดำจับเป็นคราบ หรือไม่ก็มีน้ำมันจับที่เขี้ยวหัวเทียน ซี่งจะเปรียบเทียบกับหัวเทียนใหม่หรือหัวเทียนที่สมบ ูรณ์ได้ว่า มีส่วนแตกต่างกันอยู่ทาก
    โดยปกติหัวเทียนที่ถูกต้องสามรถจะทำให้เครื่องยนต์หร ือรถวิ่งไปได้อย่างน้อย 500 ไมล์ โดยปราศจากข้อยุ่งยาก เฉพาะอย่างยิ่งถ้ารู้จักวิธีรักษาหรือปฏิบัติการรักษ าสภาพตามที่กล่าวมาในบทที่แล้ว เครื่องยนต์บางชนิดควรจะได้มีการเปลี่ยนหัวเทียนใหม่ ในระยะ 1000 ไมล์เป็นเหมาะที่สุด เพราะราคาของหัวเทียนไม่แพงนัก และวิธีการเปลี่ยนหัวเทียนก็ทำได้ง่าย แต่วิธีที่ดีที่สุดก็คือการจัดให้มีหัวเทียนสำรอง (ที่ใช้การได้) ติดไปกับรถด้วย เมื่อถึงเวลาที่ควรจะเปลี่ยนหรือสลับกันใช้ โดยนำเอาหัวเทียนเก่านั้นออกมาล้างทำความสะอาดแล้วเก ็บไว้ภายหลัง หัวเทียนสำรองนอกจากจะช่วยประหยัดเวลาและรักษาเครื่อ งยนต์แล้ว ยังอาจเป็นประโยชน์ได้ในบางคราวที่เราเกิดขาดเครื่อง มือทำความสะอาดหัวเทียนในเวลานั้นอีกด้วย
    หลักการใช้หัวเทียน
    ข้อที่น่าสังเกตอีกประการหนึ่ง คือการใช้หัวเทียนตามหลักที่ได้กล่าวไว้ ตารางการใช้ขนาดของหัวเทียนสำหรับสกูตเตอร์แต่ละขนาด นั้น นอกเหนือจากนี้ ก็คือการเลือกใช้หัวเทียนอีกประเภทหนึ่งซึ่งเกี่ยวกั บการใช้รถตามสภาพท้องถิ่น หรือตามความต้องการของผู้ขับขี่
    เช่นบางคนก็อาจมีความจำเป็นต้องการใช้ความเร็วของรถใ ห้เต็มที่เท่าที่สามรถจะเร่งได้เกือบตลอดเวลา หรือความจำเป็นอื่นๆ เช่นในการเดินทางไกล แต่การใช้รถด้วยความเร็วสูงหรือใช้ขับขี่ทางไกล เป็นเหตุที่ทำให้เครื่องยนต์ต้องการความร้อนที่เหมาะ สม หรือกำลังอัดสูงตามไปด้วย หัวเทียนชนิดนั้น ก็จะต้องทำหน้าที่ให้เหมาะกับเวลาและกำลังอัดของเครื ่องยนต์ด้วย
    We're team service.
    We're Lambretta Service Station.


    ติดต่อ Lam Station โทร. 081-867-6974

  12. #27
    Senior Member Lam Station's Avatar
    วันที่สมัคร
    Dec 2005
    สถานที่
    Lambretta Service Station
    ข้อความ
    5,551
    ขอบคุณ
    0
    ได้รับขอบคุณ 1 ครั้ง ใน 1 ข้อความ
    ผลการให้คะแนน
    24

    มาตรฐาน เล่าเรื่องแลมเบรตต้า

    ข้อบกพร่องของหัวเทียน (ต่อ)

    โดยปกติชั้น (Grade) ของหัวเทียนสำหรับใช้กับเครื่องยนต์ 2 จังหวะ ซึ่งได้แก่รถสกูตเตอร์จำพวกเวสป้าและแลมเบรตต้าที่กำ ลังกล่าวถึงนี้ ย่อมสูงกว่าชั้นของหัวเทียนที่ใช้กับรถจักรยานยนต์บา งชนิด ที่เป็นเครื่องยนต์ 4 จังหวะหรือ 2 สูบ ฉนั้นจึงควรจะรู้จักการแบ่งชั้นหรือวิธีใช้หัวเทียนใ ห้เหมาะกับรถด้วย
    การแบ่งชั้นดังกล่าวนี้ หมายถึงว่า ถ้าเครื่องยนต์ที่มีกำลังอัดสูง ความร้อนสูงตามไปด้วยนี้ ชนิดหรือชั้นของหัวเทียนก็ต้องเลือกใช้สูงตามไปด้วย ส่วนเครื่องยนต์ที่มีความอัดต่ำ หรือโดยปกติ ผู้ขับขี่ไม่ชอบขับด้วยความเร็วสูงมากนัก ความร้อนย่อมเกิดน้อยกว่า ก็ควรเลือกใช้เฉพาะหัวเทียนต่ำลงมา หัวเทียนสำหรับสกูตเตอร์แบ่งออกได้ 2 ชนิด เช่นเดียวกับหัวเทียนเครื่องยนต์ทั่วๆไป คือ
    1. หัวเทียนธรรมดา
    2. หัวเทียนทองขาว
    หัวเทียนทั้ง 2 ชนิดนี้ ยังแบ่งออกไปได้อีก 2 ประเภท คือ

    ‏(ก) ประเภทหัวเทียนร้อน (Hot Plug)
    (ข) ประเภทหัวเทียนเย็น (Cold Plug)

    หัวเทียนเย็น มีก้นฉนวนยาว หรือร่องกระเบื้องตื้น ช่วงโลหะลำตัวสั้น
    หัวเทียนร้อน มีก้นฉนวนสั้น หรือร่องกระเบื้องลึก ช่วงโลหะลำตัวยาว
    หัวเทียนทั้ง 2 ประเภท จะต้องเลือกใช้ให้เหมาะกับระยะของการระบายความร้อนได ้ถูกต้อง เพราะหัวเทียนสามารถทำงานได้ผลดี ต้องไม่ใช่ชนิดที่ร้อนจัดจนเกินไป แต่ให้มีส่วนพอเหมาะกับระยะของเครื่องยนต์เพราะหัวเท ียนที่เย็นจัดจนเกินไป จะทำให้เกิดเขม่าจับที่เขี้ยวหัวเทียนได้ง่าย ลักษณะเช่นนี้ จะทำให้เกิดประกายไฟที่เขี้ยว ไม่ได้จังหวะกับการอัดเชื้อเพลิงผสมของน้ำมัน
    ส่วนหัวเทียนธรรมดากับหัวเทียนทองขาวนั้น มีหลักการใช้อยู่ว่า ถ้าเป็นรถที่ใช้เครื่องยนต์ 2 จังหวะขนาด 50-80 ซี.ซี. หรือใช้ความเร็วไม่เกิน 40 ไมล์ต่อชั่วโมง ก็ใช้แต่หัวเทียนธรรมดา ถ้าใช้ความเร็วสูงกว่านั้น อาจใช้วิธีเปลี่ยนหรทอใช้หัวเทียนทั้ง 2 ชนิดก็ได้ เมื่อต้องการความเร็วเปลี่ยนแปลงของรถ ในระยะทางการขับขี่ เช่นการขับขี่ภายในตัวเมืองก็ควรใช้เพียงหัวเทียน
    ธรรมดา หรทอถ้ามีการเดินทางไกล ควรเลือกใช้หัวเทียนทองขาว เพราะสามารถทนทานความร้อนสูงในการขับนานๆ หรือเร่งเครื่องยนต์จัดได้ดีกว่าหัวเทียนธรรมดา
    We're team service.
    We're Lambretta Service Station.


    ติดต่อ Lam Station โทร. 081-867-6974

  13. #28
    Nikon's Member Tyn Club FUR's Avatar
    วันที่สมัคร
    Sep 2006
    สถานที่
    Club FUR
    ข้อความ
    1,247
    ขอบคุณ
    0
    ได้รับขอบคุณ 0 ครั้ง ใน 0 ข้อความ
    ผลการให้คะแนน
    19

    มาตรฐาน

    กลยุทธ์ของคนขี่เเลมฯจริงๆ อิอิ

    รับจ้างถ่ายรูปงานรับปริญญา 08-9122-2239 ดูผลงานที่ LINK ด้านล่างครับ

  14. #29
    Senior Member PRAYNA 71 CLUB's Avatar
    วันที่สมัคร
    Dec 2005
    สถานที่
    รามอินทรา 34
    ข้อความ
    1,820
    ขอบคุณ
    0
    ได้รับขอบคุณ 0 ครั้ง ใน 0 ข้อความ
    ผลการให้คะแนน
    20

    มาตรฐาน

    สุดยอดความรู้จริงๆเลยครับ.............ท่านพี่ไก่
    [U71 vintage machine][/U]

  15. #30
    Senior Member b cy's Avatar
    วันที่สมัคร
    Dec 2005
    สถานที่
    Mystyle BCY
    ข้อความ
    1,488
    ขอบคุณ
    0
    ได้รับขอบคุณ 0 ครั้ง ใน 0 ข้อความ
    ผลการให้คะแนน
    20

    มาตรฐาน


    ขอฝากเรื่องการใช้หัวเทียนขณะขับขี่ทางไกลนิดนึง จากการทดลองใช้หัวเทียนหลายเเบบ เเละหลายยี่ห้อในระหว่างการเดินทาง ทำให้ผมได้รู้ถึง ความสำคัญของหัวเทียนได้ดีขึ้น นิดนึง จากประสพณ์การณ์นะครับ รถผมเป็นรถเเลม 2 เครื่อง175 ซีซี ใช้คาบูร์ 24 มิล เปิดกรองระหว่างเดินทาง เพราะจะมีอาการระบายความร้อนไม่ทันเมื่อขี่ไกลๆเป็น ร้อยโลเเล้วค่อยพัก คาบูร์จะผสมอากาศกับน้ำมัน ไม่คงที่ไม่เหมือนกับขี่ทางใกล้ เเละเมื่ออากาสร้อนจัดหัวเทียนจะทำงานหนักระบายความร ้อนในตัวยาก ทำให้เกรียวช่องยิงไฟ เเห้งมากเเละจะบอดไว ผมใช้ตัวเเรกเป็นของ เเชมป์เปี้ยน ใช้จากกรุงเทพไป ประจวบ เเรงบิดดีมากครับไฟมาเต็มตลอด เเต่จะเกิดอาการหลังๆไปได้ร้อยกว่าโล เนื่องจากหัวเทียนไฟมา มากเกินไปทำให้การเผาผลานในห้องสูบ ทำงานหนักตาม เครื่องร้อนมากครับ มีโอกาส ชิ้นอะไหล่บางชิ้นละลายได้ครับ เป็นที่ผมด้วย อัดยาวตลอด 70-90 กม.ต่อ ชม. เหมือนกับจะทำให้เครื่องกิน ออโตลูบมากกว่าเดิม ถ้าเติมเท่าเดิม มีอาการคล้าย สูบติด ต้องหยุดเติมตลอด เมื่อเติมมากไป คราวนี้ สตาร์ตยากครับ พอผมเปลี่ยนใช้หัวเทียนเย็น ก็ดีขึ้นครับ เเต่อายุการใช้งาน น้อย บอดไวครับ เพราะเผาพลานเขม่า ไม่เท่าหัวเทียนร้อน มีคราบเขม่าเกาะเยอะกว่าเดิม เมื่อวิ่งยาว 40-50 กิโลเมตร ผมใช้มาก็มี NGK เบอร์9-8-7-6 เเต่ละเบอร์ มีความสามารถไม่เท่ากัน เเต่ NGK ใช้ดีที่สุดเท่าที่ใช้มา กลางวันผมขอเเนะนำ เบอร์ 6-5 เเต่หาซื้อยากหน่อย กลางคืนเป็นเบอร์ 8-7 เพราะกลางคืนอากาศเย็น ต้องให้ไฟเเรงนิดนึงน่าจะเป็นหัวเทียนร้อน เเต่พยายามผสม พอดีอย่าให้หนานะครับ 2 ทีกลางคืนถ้าหนานี่ ดับทีติดยากนะ เเต่ผมกล้าพูดได้เต็มปากเลยครับ 2 ทีใส่มากดีกว่าใส่น้อยครับ ไม่พังเเน่นอนเครื่อง ถ้าขาดนี่เรื่องใหญ่..........ทัวเทียนตัวโปรดผมก็ เบอร์ 6 ครับ เเละฝากถึงนักตอกเคี้ยวหัวเทียนให้ชิดๆ ไม่ได้ช่วยให้ไฟยิงดีขึ้นนะคับ เพราะหัวเทียนเค้าทำมา มาตรฐานเเล้ว ใส่ปลั๊กดูก่อน เหยียบคันสตาร์ตเช็คไฟดูก่อน ถ้ามาน้อยค่อยตอกเข้านิดนึงพอครับ ถ้าชิดมากจะทำให้เกิดประจุไฟมากเกินควรเขม่าจับข้างเ ยอะขึ้นไม่เชื่อให้สังเกตุนะครับจะมีรอยคล้ายๆเเห้งไ ม่ครบรอบ จะมีสีเเห้งเป็นบางส่วน ส่วนระยะทางการใช้หัวเทียนระหว่างวิ่งทางไกล เเนะนำ 100-200 กิโลต่อหัวครับ มีสำรองเปลี่ยนก่อนจะบอดถ้าเกินนี้ไป หัวเทียนจะเริ่มเสื่อม จะใช้ซ้ำไม่ได้ครับ ถ้าสลับเปลี่ยน 200 โลทีจะช่วยประหยัดได้เยอะเลยครับเผลอๆ วิ่ง พันสองพันโลเเค่ 2 หัวก็อยู่ครับ ........ถ้าผิดพลาดประการใดต้องขอโทษด้วยนะครับ ที่เเนะนำ มิได้เป็นวิชาการที่เขียนไว้เเต่เป็น ประสพการณ์ เล็กๆน้อยๆมากฝากกันครับ ขอบคุณครับ
    [SIGPIC][/SIGPIC]รักอุดมการ ผลาญเงินตรา หาประสบการณ์ บานตะไท บรรลัยกัลย์ ตอนนี้ในหัวผมมีเเต่ ผมอันสีดำ เสพมานานเเล้วครับ พวก vigano ulma inox biemme ken cobbing เเละอีกหลายตัวที่ทำให้ผมงมหัวไม่ขึ้น b cy บางกระปิ ชะอำ ยำวุ้นเส้น /\2
    หมอครับ เลือดผมเลือดกรุ๊ปเเลม ครับ !! ฮ๋า!!/\7 /\7 /\7 2551-2 GO ITALY/\7 /\7 /\7

หน้าที่ 2 จากทั้งหมด 3 หน้า แรกแรก 1 2 3 หน้าสุดท้ายหน้าสุดท้าย

Bookmarks

กฎการส่งข้อความ

  • You may not post new threads
  • You may not post replies
  • You may not post attachments
  • You may not edit your posts
  •