ประวัติเล็กน้อย
โตโยต้า โคโรลล่า (Toyota Corolla) เป็นรถโตโยต้ารุ่นที่ประสบความสำเร็จทั้งด้านการขาย และการเป็นที่นิยมมายาวนาน โดยเฉพาะในเมืองไทยรู้จักรถโคโรลล่า นี้มาอย่างกว้างขวางและยาวนาน โดยเฉพาะในปัจจุบัน กระแสรถ Retro กำลังเป็นที่นิยมดังเจ้าตำนานอย่าง "KE"
KE 10
Generation 1 (ผลิตระหว่าง ค.ศ. 1966-1970) โตโยต้า โคโรลล่า โฉมที่ 1โฉมนี้ เปิดตัวครั้งแรกใน ค.ศ. 1966 รหัสตัวถัง KE 10 โดยในช่วงแรก ผลิตเพียงตัวถังแบบ sedan 2 ประตู แล้วตัวถังแบบ sedan 4 ประตูเริ่มมีใน ค.ศ. 1967 และตัวถัง station wagon 4 ประตู ก็เริ่มผลิตใน ค.ศ. 1968 และตามด้วยรถ coupe 2 ประตูปิดท้ายรุ่น โดยรถคูเป้ 2 ประตู โคโรลล่าได้ตั้งชื่อเฉพาะให้ว่า โคโรลล่า สปรินเตอร์ รหัสตัวถัง KE15 โดยในระหว่างโฉมแรกนี้ มี 2 ขนาดเครื่องยนต์ให้เลือก คือ 1.1 ลิตรในช่วงแรก และ 1.2 ลิตรในช่วง ค.ศ. 1969 เป็นต้นไป
ระบบเกียร์ในสมัยนั้น ไม่เน้นการประหยัดน้ำมัน และเทคโนโลยียังไม่ก้าวหน้า ระบบเกียร์ในรถโคโรลล่าโฉมนี้ จึงมี 2 ระบบให้เลือก คือ เกียร์ธรรมดาเพียง 4 สปีด และเกียร์อัตโนมัติเพียง 2 สปีด แต่การที่มีเครื่องยนต์ลูกสูบขนาดเล็ก ทำให้รถประหยัดน้ำมัน ชดเชยการที่เกียร์มีไม่กี่สปีด และโคโรลล่าเลิกผลิตโฉมนี้ใน ค.ศ. 1970 เนื่องจากมีการเปิดตัว โคโรลล่า โฉมที่ 2
KE20
Generation ที่ 2 (ผลิตระหว่าง ค.ศ. 1970-1978) โตโยต้า โคโรลล่า โฉมที่ 2โฉมนี้ เปิดตัวครั้งแรกใน ค.ศ. 1970 รหัสตัวถัง KE 20 โดยรถรุ่นโคโรลล่า สปรินเตอร์ (Corolla Sprinter) มีการเพิ่มรูปแบบตัวถัง sedan เข้าไปในเมนูผลิต และมีการเปิดตัวรถรุ่น โคโรลล่า เลวิน (Corolla Levin) และ โคโรลล่า ทรูโน (Corolla Trueno) โดยนำตัวถังแบบ coupe GT มาใช้ และทางโตโยต้า เห็นว่า รถโคโรลล่าประสบความสำเร็จสูงมาก จึงแยกธุรกิจการขายรถโตโยต้า โคโรลล่า ออกเป็น 2 ธุรกิจ คือ ธุรกิจขายรถโคโรลล่า สปรินเตอร์ กับ ธุรกิจขายรถโคโรลล่า , โคโรลล่า เลวิน , โคโรลล่า ทรูโน
รูปแบบตัวถังมีความหลากหลายมากขึ้น ได้แก่ coupe 2 ประตู , station wagon 3 กับ 5 ประตู , sedan 4 ประตู และ van 5 ประตู และมีการเพิ่มขนาดเครื่องยนต์ เป็น 1.2 , 1.4 , 1.6 ลิตรให้เลือก และรถโฉมนี้ประสบความสำเร็จสูงมาก ดังจะเห็นได้จากการที่ถึงแม้โคโรลล่าจะเปิดตัวโฉมที่ 3 ใน ค.ศ. 1974 แต่โฉมที่ 2 นี้ ผลิตอย่างต่อเนื่องไปจนถึง ค.ศ. 1978 จึงเลิกผลิต
KE 30-60
Generation ที่ 3 (ผลิตระหว่าง ค.ศ. 1974-1981)
โตโยต้า โคโรลล่า โฉมที่ 3โฉมนี้ เปิดตัวครั้งแรกใน ค.ศ. 1974 รหัสตัวถัง KE30 , KE40 , KE50 และ KE60 มีการเพิ่มรูปแบบตัวถัง hardtop coupe 2 ประตูเข้าไป ส่วนตัวถังแบบอื่นมีดังเดิม มีและเริ่มมีการพัฒนาและได้ผลิตระบบเกียร์ให้เลือกเพ ิ่มเป็น 4 ระบบ คืออัตโนมัติ 2 กับ 3 สปีด และ ธรรมดา 4 กับ 5 สปีด ขนาดเครื่องยนต์ 1.2 กับ 1.4 ลิตร
หลังจากการเปิดตัวรถโคโรลล่าโฉมที่ 4 ใน ค.ศ. 1979 ทั่วโลกก็เริ่มทยอยหยุดขายหยุดผลิตโฉมที่ 3 และโฉมนี้ได้หยุดผลิตอย่างสมบูรณ์ใน ค.ศ. 1981
KE70
Generation ที่ 4 (ผลิตระหว่าง ค.ศ. 1979-1983)
โตโยต้า โคโรลล่า โฉมที่ 4โฉมนี้ เปิดตัวครั้งแรกใน ค.ศ. 1979 รหัสตัวถัง KE70 ในโฉมนี้ ได้เพิ่มความหลากหลายของรูปตัวถังขึ้น โดยเพิ่มรูปตัวถัง sedan 2 ประตู และ liftback 3 ประตูเข้าไปเพิ่ม แต่ได้ระงับการผลิตตัวถังแบบ coupe 2 ประตู
ระบบเกียร์ 4 ระบบดังเดิม ขนาดเครื่องยนต์ 3 ขนาด ได้แก่ 1.3 , 1.6 และ 1.8 ลิตร
และรูปโฉมนี้เป็นรูปโฉมสุดท้ายที่รถโคโรลล่าขับเคลื่ อนล้อหลังเพียงอย่างเดียวซึ่งโฉมต่อจากนี้จะค่อยๆยกเ ลิกระบบขับเคลื่อนล้อหลังของโคโรลล่าไป และจะแทนที่ด้วยระบบขับเคลื่อนล้อหน้าและ โฉมนี้ก็เป็นโฉมสุดท้ายที่มีการผลิตระบบเกียร์อัตโนม ัติ 2 สปีด และระบบเกียร์ธรรมดา 4 สปีดด้วยเช่นกัน โฉมนี้ เลิกผลิตในปีเดียวกับการเปิดตัวรถโคโรลล่าโฉมที่ 5 ใน ค.ศ. 1983 ซึ่งเป็นการปิดตำนานตัวถัง KE เพราะรถที่ผลิตออกมาใหม่ถูกเปลี่ยนรหัสตัวถังเป็น AE
ขอบคุณ : kkteducation
Bookmarks