อิ่มแล้วก็ ไว้พระศาลเจ้าพ่อหลักเมืองกันหน่อย
div>
จุดหมายต่อไป
ป้อมแผลงไฟฟ้า
ป้อมแผลงไฟฟ้าเป็นป้อมปราการ สร้างขึ้นเพื่อป้องกันข้าศึกศัตรูที่จะลุกล้ำเข้ามาท างปากแม่น้ำเจ้าพระยา สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 2 พระบาทสมเด็จพรพุทธเลิศหล้านภาลัยโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นพร้อมกับเมืองนครเขื่อนขันธ์เมื่อ พ.ศ.2358 และสร้างป้อมต่างๆ พร้อมกัน อีก 3 ป้อม คือ 1. ป้อมปู่เจ้าสมิงพราย 2.ป้อมปีศาจสิง 3.ป้อมราหูจร 4.ป้อมมหาสังหาร 5.ป้อมศัตรูพินาศ 6.ป้อมจักรกลด 7.ป้อมพระอาทิตย์พระจันทร์
โดยทำการชักปิกกาถึงกันสร้างกำแพงต่อเนื่องกันทุกป้อ ม และด้านหลังเมืองสร้างกำแพงล้อมรอบไว้ และสร้างยุ้งฉางสำหรับเก็บข้าวของและเครื่องศาสตราวุ ธ บริเวณริมแม่น้ำทำลูกทุน ใช้ชุงปักเป็นจุดๆ แล้วร้อยใช้ต่อกันผูกกับทุน เพื่อยับยั้งข้าศึกที่จะยักทัพมารุกรานเมืองหลวงที่เ ข้ามาทางปากน้ำเจ้าพระยา
ป้อมแผลงไฟฟ้า อยู่ทางฝั่งอำเภอพระประแดง ปัจจุบันเทศบาลเมืองพระประแดงได้ซ่อมแซมให้เป็นสถานท ี่พักผ่อนหย่อนใจของประชาชน ป้อมนี้เคยบูรณะซ่อมแซมมาแล้วครั้งหนึ่งในสมัยรัชกาล ที่ 6 เมื่อ พ.ศ. 2436 ปัจจุบันขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน
วัดบางน้ำผึ้งนอก
ตั้งอยู่ที่บ้านบางน้ำผึ้งตำบลบางน้ำผึ้ อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย พื้นที่ตั้งวัด เป็นที่ราบลุ่มอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาแวดล้อมไปด้วยท ี่สวน อาณาเขตทิศเหนือ ทิศใต้ ทิศตะวันออก และ ทิศตะวันตกติดกับที่ดินเอกชน
วัดบางน้ำผึ้งนอก สร้างขึ้นประมาณ พ.ศ. 2450 ในสมัยรัชกาลที่ 5 ได้มีเจ้าพระยาธัมมาธิกรณ์ (มั้ง) ได้มาบูรณะ ปฏิสังขรณ์อุโบสถและวิหารขึ้น ได้รับพระพระราชทานวิสุงคามสีมาครั้งหลังเมื่อวันที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2509 ผูกพัทธสีมาเมื่อวันที่ 11 มีนาคม พ.ศ.2511
ภายใต้วัดมีอาคารเสนาสนะ ดังนี้อุโบสถ สร้างเมื่อ พ.ศ.2512 เป็นอุโบสถหลังใหม่ กุฏีสงฆ์ จำนวน 12 หลังเป็นอาคารครึ่งตึกครึ่งไม้ หอสวดมนต์สร้าง พ.ศ. 2524 ศาลาการเปรียญสร้าง พ.ศ.2505 วิหารเป็นอุโบสถหลังเก่า สำหรับปูชนียวัตถุมี พระประธานในอุโบสถนามว่า หลวงพ่อใหญ่ ปางสมาธิ
สวนศรีนครเขื่อนขันธ์
สวนศรีนครเขื่อนขันธ์ (สวนบางกระเจ้า) เป็นสวนสาธาราณะในอำเภอบางกระเจ้า ขนาด 200 ไร่ แวดล้อมไปด้ยสวนหมาก และสวนผลไม้ ซึ่งเป็นผลจากความพยายามจะสงวนย่านนี้เป็นพื้นที่สีเ ขียว ตั้งแต่สมัยรัฐบาลพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ สวนแห่งนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามว่า สวนศรีนครเขื่อนขันธ์ เมื่อ พ.ศ 2535 และยังเป็นสวนของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ และเป็นพื้นที่สีเขียวที่รัฐบาลกำหนดให้เป็นปอดของกร ุงเทพฯ
ภายในสวนนี้ห้ามรถเข้า แบ่งด้านหน้าเป็นสวนสาธารณะที่ปรับปรุงจากพื้นสวนโบร าณ มีสระน้ำขนาดใหญ่ ศาลาริมน้ำมีเกษตรสาธิต มีหอดูนกชมวิว และอีกส่วนคงอนุรักษ์สวนเดิมเอาไว้ ความอุดสมบูรณ์ของพื้นที่ส่งผลให้ย่านนี้เป็นแหล่งอา หารของสัตว์ป่าโดยเฉพาะนกนานาชนิด ที่ปกติอาจจะต้องไปหาดูตามป่าห่างไกล แต่สามารถพบเห็นได้ที่นี่
นอกจากเป็นสวนไม้ผล พวกไม้ดั้งเดิมอย่างลำพูก็มี ที่นี้จึงเป็นแหล่งที่มีหิงห้อย จนต้องจัดเป็นสวนสำหรับดูแลแมลงที่มีแสงในตัวเป็นการ เฉพาะอีกหมวดหนึ่ง ส่วนบรรยากาศในสวนมีสะพานไม้ให้เดินเล่นได้ มีความร่มรื่นมาก เหมาะแก่การพักผ่อนท่ามกลางความเขียวขจีของพรรณไม้ และยังจะได้เห็นรูปแบบการทำสวน แค่เพียงข้ามฝั่งเจ้าพระยาก็จะได้สัมผัสสวนสวยกลางมห านครฯ ที่สวนศรีนครเขื่อนขันธ์แห่งนี้
Bookmarks