แม้สถานการณ์น้ำมันโลกจะเริ่มขยับตัวไปในทิศทางที่ดี ขึ้น แต่ราคาน้ำมันก็ยังมีแนวโน้มที่จะปรับตัวเพิ่มสูงขึ้ นตามสภาพเศรษฐกิจและการลดอัตราการผลิตของกลุ่มผู้ค้า น้ำมัน พลังงานทางเลือกสำหรับรถยนต์ จึงเป็นทางออกสำหรับราคาน้ำมันที่แพงขึ้น และยังเป็นตัวช่วยสำคัญในการลดมลภาวะให้กับโลกอีกด้ว ย ซึ่งนอกจากรถยนต์พลังงานไฟฟ้าจะเป็นหนึ่งในตัวเลือกข องผู้ขับขี่รถยนต์แล้ว ยังมีรถยนต์พลังงานทางเลือกอีกหลายประเภทที่ตอบโจทย์ คนรักสิ่งแวดล้อมได้ มีอะไรบ้าง

1. รถยนต์พลังงานไฟฟ้า
รถยนต์พลังงานไฟฟ้า เป็นอีกหนึ่งทางเลือกแรกที่หลายคนนึกถึง เพราะไม่เพียงมีมาตรการและส่วนลดหลายอย่างที่ดึงดูดใ ห้คนใช้รถตัดสินใจเลือกใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า แต่รถยนต์ไฟฟ้ายังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ไม่มีการปล่อยควันเสีย ส่งผลดีต่อสภาพอากาศ และประหยัดเงินค่าน้ำมันในกระเป๋าได้มากขึ้น (รถยนต์ EV ประหยัดเงินได้เท่าไหร่? ชาร์จไฟอย่างไรให้คุ้ม? https://www.smk.co.th/newsdetail/2923) เนื่องจากสามารถชาร์จพลังงานจากที่บ้านได้ แม้ว่าจะต้องใช้เวลานานกว่าปกติก็ตาม (รถยนต์ไฟฟ้ามีกี่ประเภท? ประเภทรถไฟฟ้าแบบไหนที่เหมาะ? https://www.smk.co.th/newsdetail/2873)

2. รถยนต์พลังงานโซลาร์เซลล์

รถยนต์พลังงานโซลาร์เซลล์นับเป็นอีกทางเลือกสำหรับคน ที่ต้องการใช้รถยนต์พลังงานสะอาด แต่ในปัจจุบันอาจจะมีผู้ผลิตน้อยกว่าพลังงานไฟฟ้า แต่จุดเด่นที่สำคัญ คือ การชาร์จพลังงานทำได้ไม่จำกัด โดยเฉพาะในวันที่มีแดดแรง นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาให้แผงโซลาร์เซลล์มีขนาดใหญ่ขึ้น ทำให้รถยนต์สามารถวิ่งได้ไกลขึ้น

ปัจจุบันรถยนต์พลังงานโซลาร์เซลล์เริ่มมีวางจำหน่ายแ ล้วในยุโรป โดยบริษัท Lightyear สตาร์ตอัปจากเนเธอร์แลนด์ ผู้พัฒนารถ EV พลังงานแสงอาทิตย์รายแรกของโลก ซึ่งกำลังจะเริ่มส่งมอบรถให้ลูกค้าได้ในปลายปี 2022 โดย Lightyear ก่อตั้งขึ้นในปี 2016 และมุ่งมั่นพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าที่มีแผงโซลาร์เซลล์ติดต ั้งมาบนฝากระโปรงรถและหลังคาซึ่งการได้รับพลังงานจาก ดวงอาทิตย์ทั้งวัน ทำให้สามารถขับรถยนต์ได้ไกลถึง 70 กิโลเมตร

สำหรับรถ EV พลังงานโซลาร์เซลล์ที่บริษัทเปิดตัวคันแรกนั้นมีชื่อ รุ่นว่า Lightyear 0 ซึ่งผลิตขึ้นที่ประเทศฟินแลนด์โดย Valmet Automotive มีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 250,000 ยูโร หรือราว 9.1 ล้านบาท มีคุณสมบัติหลักๆ คือ นอกจากจะใช้พลังงานจากการชาร์จผ่านระบบไฟฟ้าปกติแล้ว ยังสามารถรับพลังงานจากแผงโซลาร์เซลล์ที่ผลิตพลังงาน ไฟฟ้าให้กับรถได้อีกด้วย

Lightyear 0 มาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาด 60 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ที่ทำให้การชาร์จไฟฟ้าปกติ 1 ครั้ง สามารถวิ่งได้ไกล 625 กิโลเมตร (ตามมาตรฐานการวัด WLTP) แต่หากชาร์จผ่านแผงโซลาร์เซลล์เต็มวัน (ในสภาพที่ได้รับแดดเต็มที่) จะสามารถวิ่งได้สูงสุด 70 กิโลเมตร หรือหากเป็นสภาพอากาศแบบมีเมฆปกคลุมก็ยังได้รับพลังง านที่ทำให้รถยนต์สามารถวิ่งได้ไกลถึง 35 กิโลเมตรต่อวัน

3. รถยนต์พลังงานไฮโดรเจน

รถยนต์พลังงานไฮโดรเจน หรือ Full Cell Electric Vehicles (FCEVs) เป็นการใช้พลังงานแบบเซลล์เชื้อเพลิง (Fuel cell) โดยมีถังเก็บไฮโดรเจนซึ่งจะถูกป้อนเข้าเซลล์เชื้อเพล ิงด้วยแรงดันสูงเพื่อไปผสมกับออกซิเจนทำให้เกิดปฏิกิ ริยาไฟฟ้าเคมีเพื่อป้อนให้กับมอเตอร์ไฟฟ้าและนำไปใช้ ในการขับเคลื่อนตัวรถ ซึ่งการใช้พลังงานในลักษณะนี้เป็นรูปแบบหนึ่งของรถยน ต์พลังงานไฟฟ้า โดยใช้พลังงานจากไฮโดรเจนมาช่วยในการสร้างพลังงานให้ กับมอเตอร์ไฟฟ้าแทน
ในกระบวนการสร้างไฟฟ้าของ FCEVs จะไม่ปล่อยไอเสียที่เป็นพิษออกมาแม้แต่น้อย ผลที่ได้เพียงอย่างเดียวของกระบวนการทั้งหมด คือน้ำและความร้อนอันเป็นผลมาจากการผสมของอะตอมไฮโดร เจนและออกซิเจน ทำให้เกิดเป็นโมเลกุลของ H2O ซึ่งก็คือน้ำนั่นเอง

ปัจจุบัน รถยนต์ไฮไดรเจนที่ถูกจัดอันดับว่าวิ่งได้ไกลที่สุดคื อ Hyundai Nexo (จากข้อมูลของเว็บ Carguide) ที่ภายในตัวรถมีถังเก็บไฮโดรเจนความจุ 156.5 ลิตร ทำให้รถวิ่งได้ไกลสูงสุดถึง 660 กิโลเมตรต่อก๊าซหนึ่งถัง ในขณะที่ Tesla Model S ซึ่งเป็นรถไฟฟ้าที่ดีที่สุดของ Tesla สามารถวิ่งได้ไกลสุดถึง 637 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง ซึ่งระยะทางไกล้เคียงกันอย่างมาก แต่ก็ขึ้นอยู่กับตัวแปรหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น จำนวนผู้โดยสาร การเปิดหรือปิดเครื่องปรับอากาศ การใช้งานอุปกรณ์อื่น ๆ ในรถ น้ำหนักบรรทุกของ รูปแบบการขับขี่ รถวิ่งขึ้นถนนที่ลาดชันหรือจอดติดอยู่ใจกลางเมือง ซึ่งตัวแปรเหล่านี้ จะทำให้ประสบการณ์การใช้งานของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนก ัน

สำหรับการเติมพลังงานของรถยนต์ไฮโดรเจน พบว่า จะใช้เวลาในการสูบก๊าซเข้าไปในถังเก็บ อยู่ที่ประมาณ 5-10 นาที ซึ่งเป็นเวลาที่ใกล้เคียงกันกับรถที่เติมน้ำมัน ส่วน Supercharger ของ Tesla ใช้เวลา 15 นาที ในการชาร์จรถให้ได้แบตเตอรี่ที่ 60-70 เปอร์เซ็นต์ นั่นแปลว่า ถ้าไม่ใช่ Tesla Supercharger เป็นหัวชาร์จของแบรนด์อื่น อาจจะใช้เวลามากกว่านี้ และนั่นเป็นเหตุผลว่า ทำไมสถานีชาร์จถึงต้องมีมากกว่าสถานีเติมไฮโดรเจน เนื่องจากต้องใช้เวลาในการชาร์จมากกว่า

4. รถยนต์พลังงานลม

รถยนต์พลังลม หรือ “air pod” ออกแบบโดยบริษัท MDI (Motor Development International) ที่ขับเคลื่อนด้วย “พลังงานลม” ทำให้ไม่เกิดมลพิษและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีที่นั่งสำหรับผู้ใหญ่ 3 ที่และที่นั่งเด็กอีก 1 ที่ ควบคุมล้อด้านหน้าด้วย Joystick ผลิตและขายโดย Tata Motors บริษัทสัญชาติอินเดีย มีราคาจำหน่ายอยู่ที่ประมาณ $10,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 316,625 บาท) โดยมีล้อหน้าเพียงล้อเดียว แต่ก็มีบางรุ่นที่ถูกพัฒนาขึ้นมาให้มี 4 ล้อด้วย

รถยนต์ Air Pod สามารถทำความเร็วได้สูงสุดระหว่าง 45 ถึง 70 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และยังสามารถเดินทางได้ไกลถึง 225 กิโลเมตร สำหรับการเติมลมเต็มถังขนาด 46 แกลลอน 1 ครั้ง ซึ่งจะใช้เวลา 8 ชั่วโมงหรือ หากบริการผ่านสถานีเติมอากาศจะใช้เวลาเพียง 2 นาที เท่านั้น

อุบัติเหตุบนท้องถนนเป็นเรื่องไม่คาดคิด ต่อให้ใช้รถยนต์ประเภทใดอุบัติเหตุก็เกิดขึ้นได้ เลือกทำประกันรถยนต์ที่ช่วยลดทุกความเสี่ยงภัยบนท้อง ถนน ประกันภัยรถยนต์คนกรุง ประกันรถยนต์ภาคสมัครใจประเภท 1 เบี้ยเริ่มต้น 11,600 บาท อัตราเบี้ยคงที่เท่ากันทุกปีคุ้มครองครอบคลุมทุกกรณี ไม่ว่าจะรถชนรถ รถชนของ รถคันอื่นมาชน เกิดอุบัติเหตุนอกเมือง สูญหายไฟไหม้ น้ำท่วม พร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉินทางรถยนต์ (Roadside Assistance Service) สนใจรายละเอียด คลิก https://www.smk.co.th/productmotordetail/19 หรือ โทร.1596 Line : @smkinsurance พร้อมติดตามอ่านข้อมูลและเนื้อหาสาระดีดีเพิ่มเติมได ้ที่ https://smkinsurance.blogspot.com