สวัสดีครับผม
ไม่ทราบว่าลองเช็คแบบนี้บ้างรึยังครับผม
1. การตั้งสายครัช (เข้าเกียร์ 1 บีบครัชสุดค้างไว้, รถต้องไม่ไหลครับ)
ถ้ารถไหล ก็ตั้งครัชให้ลึกขึ้นครับผม
2. ให้ดูเนื้อผ้าครัชครับผม ว่ามันเหลือเนื้ออยู่รึเปล่าครับ
ดูไม่ยากครับ
3. บูชทองเหลือง นี่ใช่ตัวกดครัชรึเปล่าครับผม ที่มันอยู่ตรงถ้วยครัช
ถ้าใช่ แนะนำซื้อใหม่ครับผม ราคา 15 หรือ 50 บาท ผมจำไม่ได้ครับผม
ปล. ขออนุญาติเสริมสักเล็กน้อยครับผม
ครัช 2 แรงปรกติจะกดแรงกว่าครัชแบบปรกติครับ แต่ในรถที่ไม่ได้ทำเครื่อง มันจะไม่ค่อยจำเป็นครับ
ถ้าใส่ในรถเราอยู่แล้ว อยากเห็นผลเพิ่มขึ้น
ลองหาเสื้อ+ลูก 3 หรือ 5 พอร์ท ดูครับผม
แยงนิดหน่อย ปาดเล็กน้อย ขับกำลังสนุกครับผม
เอาแค่พอดีครับ รถไม่ช้ำ ราคาค่าทำไม่แรงครับผม
กลับมาอีกครั้งครับ ตอนนี้รถวิ่งไกลๆ ปกติไม่มีงองแง ส่วนรอบเดินเบาก็ปกติดีกว่า มีอาการสตาสติดยากอยู่บ้าง ผมว่าจะเอาคาบูออกมาล้างอยู่แต่ยังไม่มีเวลา ส่วนที่มีปัญหาตามมาอีกข้อที่ผมกำลังคิดๆ อยู่ คือ ไฟหน้าขาดบ่อย ตอนจังหวะที่วิ่งสัก 80 แช่ยาวๆ เริ่มจากขาดไฟต่ำ และก็ไล่ไปไฟสูง และก็ไปไฟหรี่ ผมสงสัยว่า เป็นที่กล่องไฟผมหรือเปล่า (รถ P125x) กล่องเก่าติดรถตอนแรกมีปัญหาเรื่องไฟให้ช่างไปแก้ช่า งเพิ่มตัวโอเวอร์โหลดให้ 1 ตัว แต่ไฟยังคงขาดอยู่ ผมจะเปลี่ยนกล่อง หรือลองเปลี่ยนหลอดจาก 12v เป็น 24v ก่อนดีไหมครับ รบกวนชี้แนะด้วยครับ^^
สวัสดีครับผม คุณอบเชย
ถ้ามีเวลา จริงๆผมอยากให้คุณอบเชย นำมิเตอร์วัดไฟมาจับที่ไฟหน้า(ไฟต่ำ) ดูก่อนครับผม
ใช้ตัวปากคีบ คีบตรงขั้วไฟหน้า แล้วลองขับดูครับผม ว่าแรงดันขึ้นกี่แอมป์ และกี่โวลท์ ครับ
หลักๆแล้ว แรงดันไฟควรจะเป็น 12-13 โวลท์อยู่แล้วครับผม อยู่ที่ว่ามันจะไปถึง 14หรือ15 หรือเปล่าครับ
และเมื่อเราทราบว่ารถเราสร้างกระแสกี่แอมป์และกี่โวล ท์แล้วแล้ว เราค่อยมาเลือกหลอดไฟหน้าครับ
การเอาหลอดไฟ 24v มาใส่รถ 12v ผมมองว่ามันยังไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ตรงจุดสักเท่าไหร ่ครับผม
ปล. หากรถเราไฟแรงมาก เราก็เลือกหลอด 12v แล้วเลือกวัตต์สูงๆเอาครับผม
สวัสดีครับ รบกวนสอบถามครับ
ผมเพิ่งขี่เวสป้ามาได้ 4-5 เดือน (สปรินท์ หัวเหลี่ยม) รถเพิ่งผ่าเครื่องมานะครับ ตอนนี้พบปัญหาเร่งไม่ออกเสียงท่อดังแปลกๆถี่และรัวบิ ดคันเร่งสุดควันไม่มีออกเลย เวลาขับเกียร์ต่ำบิดคันเร่งไม่ออกแต่พอค้างไว้สักพัก จะออกกระชาก ถ้าไม่เร่งเหมือนเครื่องจะดับแต่ไม่ดับ ขนาดเกียร์ 4 ไม่บิดคันเร่งไม่กำครัชรถไม่ดับรถไหลไปได้ ทั้งที่ก่อนหน้านี้เวลาชะลอระถ้าไม่กำครัชรถจะกระตุก ๆแล้วก็จะดับ แบบนี้มีสาเหตุจากอะไรครับมีวิธีแก้ไขอย่างไรบ้าง
อีก 1 เรื่องที่อยากรบกวนสอบถามนะครับ เวลาผมถอนเกียจากเกีย 3 เป็นเกียร์ 2 หลายครั้งที่จะไปตกระหว่างเกียร์ 2 และเกียร์ 3 คือกึงกลางน่ะครับอาการเหมือนเข้าเกียร์ว่างแล้วพอเร ่งเครื่องก็ไม่ไปสักพักก็จะดังกึกๆๆๆๆ (ค่อนข้างดังนะครับ) ก็จะมาตกที่เกียร์ 2 หรือ 3 แป็นแบบนี้ค่อนข้างบ่อย อาการแบบนี้เป็นเรื่องปกติหรือเปล่าครับ
ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคำตอบนะครับ
สวัสดีครับผม
เรามาแยกกันทีละข้อก่อนนะครับผม
1. รถที่ท่านขับขี่อยู่นั้น ใช้ระบบไฟแบบใด
1.1 ระบบ ทองขาว
1.2 ระบบ ซีดีไอ
1.3 ระบบ ซีดีไอแปลง
สำหรับวิธีสังเกตุ
ถ้าเป็นระบบทองขาว ตรงช่องพัดลม ถ้าเราหมุนใบพัด จนช่องเปิดที่พัดลม หมุนมาที่ตำแหน่ง 13:00 น.
ท่านจะเห็น แท่งข้างในมีสีเงิน ลักษณะเป็นก้าน ตรงปลายมีสีทอง เวลาเราหมุนพัดลม ซ้าย ขวา
ก้านด้านในจะ หุบ และ อ้า ครับผม
ถ้าเป็นระบบ ซีดีไอ เวลาเราหมุนใบพัด ทำเหมือนด้านบน เราจะไม่พบทองขาวครับผม
ถ้าเป็นระบบ ซีดีไอแปลง เวลาเราหมุนใบพัด เราจะพบ มัดข้าวต้ม(มัดไฟ ที่อยู่ด้านในพัดลม)
เพียง 1-2 อันเท่านั้นครับผม และลักษณะมัดจะผอมแห้ง โดยถ้าเป็นของเดิม จะมีลักษณะอ้วนป้อมครับผม
ทำไมผมถึงถามเรื่องระบบไฟ
เพราะถ้าหาก เป็นระบบไฟ ซีดีไอแปลง น้อยรายครับ ที่จะจบแบบแฮปปี้เอนดิ้งครับผม
2. เกียร์ของเวสป้านั้น มีลักษณะเป็นฟันเฟือง เรียงต่อกันเป็นชั้นๆ เหมือนเจดีย์
โดยตรงแกนกลาง จะมีตัวกากบาท เพื่อใช้ล๊อคเกียร์ที่เราเลือก
โดยกากบาทนี้ จะมีแกนที่ยื่นออกมาด้านนอกเครื่อง ตรงกระปุกใกล้ๆ คันสตาร์ทครับผม
ถ้าเราหันหน้าเข้าหาเครื่อง มองไปที่คันสตาร์ท กระปุกเกียร์ จะอยู่ด้านซ้ายครับผม
มีลักษณะเหมือนซาลาเปาครึ่งลูกครับผม
ทำไมต้องกระปุกเกียร์
เพราะว่าตรงกระปุกเกียร์นี้ อยู่ด้านนนอกเครื่อง สามารถสังเกตุได้ง่าย
และมีน๊อตหัวแฉก อยู่แค่ 2 ตัว ครับผม
เรามาถอดกันดีกว่าครับ
1. หยิบประแจแฉก มาไขน๊อคที่กระปุกเกียร์ออก(มีแค่ 2 ตัวครับ)
2. เมื่อท่านเปิดฝาออกมา ท่านจะเห็น สายสลิง 2 เส้น (ซึ่งต่อมาจากคันเกียร์ตรงแฮนด์ด้านซ้ายที่เราใช้เปล ี่ยนเกียร์ครับ)
2.1 เส้นที่อยู่ด้านในจะใกล้เกียร์ 1 ครับ
2.2 เส้นที่อยู่ด้านนอกจะใกล้เกียร์ 4 ครับ
ความตึงของสายควรจะพอดี โดยเราสามารถเอานิ้วกดลงไปได้เพียงเล็กน้อยครับ
ถ้าตึงไป หรือ หย่อนไป
เราสามารถใช้ประแจเบอร์ 8 ปรับตั้งสายที่หน้ากระปุกเกียร์ ได้ครับผม
3. หลังจากดูความตึงสายแล้ว ท่านลองเข้าเกียร์ดูครับผม หรือเอาไปลองขับดูครับ
ถ้ายังไม่พอใจ ให้ท่านลองสังเกตุที่ เดือยตรงกระปุกเกียร์ดูครับผม
เดือยควรจะไม่สึกมาก เพราะถ้าสึกมาก อาจกระโดดข้ามเกียร์ได้ครับผม
ถ้าเช็คตามนี้แล้วยังไม่หาย
ลองฝึกหัดการเข้าเกียร์ดูก่อนครับผม
ถ้ายังไม่หาย ให้ลองถ่ายรูกระปุกเกียร์มาครับผม
3. เรื่องการใส่เกียร์แล้วรถไหล
ขออนุญาตอธิบายซักเล็กน้อยครับผม
ในรถมีครัช ตัวครัชจะเป็นตัวหยุดการหทุนของเครื่องชั่วขณะ(เมื่อ เราบีบครัชในรถมอเตอร์ไซค์ หรือเหยียบครัช ในรถยนต์)
เพื่อที่เราจะสามารถเปลี่ยนเกยร์ได้ครับ ซึ่งจริงๆแล้วเราก็สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้เลย โดยที่ไม่ต้องบีบครัชครั้บผม
แต่อาจส่งผลเสียต่อเครื่อง และรถจะกระชากครับผม
สำหรับท่านที่ไม่เคยลอง
ให้ลองเข้าเกียร์ 1 แล้วค่อยๆปล่อยครัช โดยที่ไม่ต้องบิดคันเร่ง หรือเหยียบคันเร่ง(ในรถยนต์)
ณ จุดหนึ่ง แรงของเครื่อง(Thrust) จะเอาชนะแรงเสียดทาน(Friction) และทำให้รถเริ่มคลื่นตัวครับ
วิธีนี้ เรียกว่า เลียครัช ครับผม
เมื่อรถได้ความเร็ว ประมาณหนึ่งแล้ว
ให้บีบครัช หรือเหยียบครัช ในรถยนต์ เพื่อเข้าเกียร์ ต่อไปครับผม
ท่านจะพบว่า ท่านสามารถทำแบบนี้ได้จนสุดเกียร์รถของท่านครับผม
แต่ถ้าความเร็วของรถ และเกียร์ไม่สัมพันธ์กัน รถท่านจะกระตุก และถ้าท่านไม่บีบครัชช่วย รถจะดับครับผม
สวัสดีครับผม
ถ้าร้อนแล้วดับ หรือสตาร์ทติดยาก
ผมแนะนำว่า ให้ลองหาคอยด์ข้างเครื่อง(คอยด์หัวเทียน) ของรถคันอื่นๆมาลองเปลี่ยนดูครับผม
ถ้ามีกำลังทรัพย์ แล้วอยากลองเปลี่ยน
ก็ซื้อของเทียบมาลองครับผม ตัวนึงราคาราวๆ 450 บาท ครับผม
ปล. คอยด์หัวเทียน คือทั้งสายหัวเทียน และ ก้อนๆตรงปลายสาย(อยู้ด้านซ้ายสุด ถ้าเราหันหน้าเข้าหาพัดลมเครื่อง)
Bookmarks