ลงเนินมานิดหน่อยก็เห็นร้านค้า พี่เต้ยบอกว่าร้านนี้ที่ว่าจะให้แวะก่อนขึ้นเนินจริง ๆแล้วมันอยู่หลังเนินแรก
และอยู่ก่อนเนินที่สอง แกชี้ให้ดูเนินข้างหน้า
แล้วก็ได้ยินเสียงตะโกนของผู้หญิงตะโกนเสียงเหน่อๆว่ า
กลัวเหรอเนินไม่ชันหรอกเขาไปกันหลายสิบคันแล้ว
ผมเลยตะโกนสวนไปบอกว่า ไม่กลัวหรอกเนินแค่นี้ แต่หมดแรงแล้ว
แล้วเราก็พักเติมน้ำ พี่เต้ยซื้อเครื่องดื่มเกลือแร่แจกคนละขวด ,น้ำเย็นขวดใหญ่
เฮียตี่ไปคว้าโหลขนมมานั่งกินด้วยความหิว ผมควักกล้วยน้ำว้าที่พกมา1ลูกออกมากิน
ดีนะที่ผมกินข้าวเช้ามามื้อใหญ่ ซึ่งปรกติเวลาไปปั่นที่พระราม 5 ผมไม่ค่อยกินมื้อหนัก
ชวนป้าคุยถามว่าเนินที่ชันๆที่พวกผมผ่านมาเขาเรียกว ่าอะไร
ป้าตอบว่า อ๋อ ช่องเจ๊กโต๊ะมันชันมาก แต่อีเนินข้างหน้าไม่ชันเท่าไหร่
ผมทวนคำตอบอีกครั้งอ๋อช่องเจ๊กโต๊ะ แล้วเนินข้างหน้ามันชื่ออะไรครับ
แล้วเนินข้างหน้ามันชื่ออะไรครับ
ป๋าตอบคอเขาฝิ่น แกกำลังทำอาหารโจ๊กกิน และที่บ้านแกเพาะเห็ดขาย
กำลังแพ็ค เห็ดนางฟ้าและเห็ดนางรมกองอยู่เต็มพื้นบ้าน ผมเลยถามว่าขายยังไง
ส่งเขา8บาทผมคิดในใจถูกชิบหายแบบนี้เราซื้อที่กทม. อย่างน้อย 15 บาท
ในห้างมันฟันเรา 25-35 บาท อยากจะซื้อกลับบ้านแต่ไม่รู้จะเอากลับอย่างไร
จากนั้นก็เติมน้ำให้เต็มแล้วออกไปต่อ
ไต่เนินคอเขาฝิ่น ซึ่งก็เอาเรื่องเหมือนกัน
เพราะผมอ่วมมาแล้ว แต่คราวนี้ผมเปลี่ยนเกียร์รอเลยใส่เกียร์ หลัง 27ฟัน
แล้วออกตัวก่อนพี่เต้ย ปั่นไปสักพักชักแยะ ได้ยินเสียพี่เต้ยไล่อัดมาจะแซงขึ้นเนิน
ผมเร่งไม่ยอม แต่ก็แซงขึ้นไปได้ถึงยอดเนินใกล้เคียงกัน รอเฮียตี๋สักพักก็ตามมา
จากนั้นก็ขี่ลงเนินผ่านบ้านลานคา
รูปแรก หน้าร้านป้าเฮียตี๋และพี่เต้ยกำลังเติมพลัง
รูปที่สอง เห็ดของป้าเขา ราคาส่งแค่ 8บาท เองครับ
รูปที่สาม เดินไปดูป้าทำโจ๊ก น่ากินมาก
div>
Bookmarks